OR คาดผลงาน Q2 สดใส รับยอดขายน้ำมันพุ่ง เล็งปิดดีล Non-oil เพิ่ม
OR แย้มผลงานไตรมาส 2/65 สดใส หลังยอดขายน้ำมัน “ดีเซล-เบนซิน” เพิ่ม รวมทั้งจำหน่ายน้ำมันอากาศยาน (Jet) เริ่มฟื้น คงแผนขยาย PTT Station ปีนี้ 129 สาขา ปี 65 เล็งปิดดีลธุรกิจ Non-oil เพิ่ม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค
นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2565 ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทเห็นปริมาณการจำหน่ายน้ำมันดีเซลและเบนซินในช่วงเดือน เม.ย. 2565 ยังเติบโตได้ดี ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันอากาศยาน (Jet) เริ่มฟื้น จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และการเปิดประเทศทำให้เที่ยวบิน (Flights) จะเพิ่มมากขึ้น หลังจากช่วงโควิด-19 ระบาดหนักส่งผลกระทบต่อปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน Jet หายไปถึง 70%
ขณะที่ค่าการตลาด (Marketing Margin) ไตรมาส 2 ปี 2565 คาดใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ปี 2565 แม้จะได้รับผลกระทบจากการตรึงราคาน้ำมันดีเซลในเดือน เม.ย.2565 แต่ได้ปัจจัยหนุนจากภาครัฐลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค. 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ขณะเดียวกันก็มีการปรับขึ้นราคาขายหน้าปั๊มตามสถานการณ์ราคาตลาดโลกได้มากขึ้น รวมถึงมีการบริหารต้นทุน ทำให้สามารถรักษาระดับอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ให้ใกล้เคียงไตรมาสแรกได้
สำหรับผลการดำเนินงานทั้งปี 2565 จากคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) เติบโต 2.5-3.5% จากการท่องเที่ยวและส่งออกที่ดีขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่คาดว่าจะออกมาเพิ่มเติม เป็นปัจจัยบวกต่อผลการดำเนินงานของ OR ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยกลุ่ม ปตท.ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และปี 66 น่าจะลงมาเฉลี่ยอยู่ที่ 92.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์รัสเซียและยูเครนจะดีคลี่คลายลง และเศรษฐกิจจีนน่าจะดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทยังคงแผนการขยายสถานีบริการน้ำมัน (PTT Station) ปีนี้จำนวน 129 สาขา และร้าน Cafe Amazon ที่ 389 สาขา จากไตรมาส 1 ปี 2565 ขยายไปแล้วจำนวน 5 สาขา และ 57 สาขา ตามลำดับ ซึ่งยอมรับว่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย แต่บริษัทฯ จะไปเร่งการขยายสาขาในช่วงปลายไตรมาส 2 ปี 2565 เป็นต้นไป
นอกจากนั้นบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) หรือการร่วมลงทุน (JV) อย่างต่อเนื่องอีกหลายดีล โดยคาดว่าปีนี้น่าจะสามารถประกาศปิดดีลได้บางราย อย่างไรก็ตาม การเจรจายังคงมุ่งเน้นไปเพื่อการเติมเต็มธุรกิจค้าปลีกที่ไม่ใช่น้ำมัน ซึ่งจะเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไปในอนาคต