“ดาวโจนส์ฟิวเจอร์” พุ่งเกือบ 200 จุด ส่งสัญญาณ ”วอลล์สตรีท” ไปต่อ
“ดาวโจนส์ฟิวเจอร์” พุ่งเกือบ 200 จุด ส่งสัญญาณ ”วอลล์สตรีท” ไปต่อ โดย ณ เวลา 20.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ บวก 192 จุด หรือ 0.60% สู่ระดับ 32,268 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ โดย ณ เวลา 20.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 192 จุด หรือ 0.60% สู่ระดับ 32,268 จุด
ด้านดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดวานนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
ทั้งนี้ รายงานเฟดระบุว่า เฟดจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.50% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. และอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี หากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลง
นอกจากนี้ เฟดแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/65 ในวันนี้
ส่วนนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว -1.3% ในไตรมาส 1 จากเดิมที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าหดตัว -1.4% ในการรายงานตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาในปี 2564 เศรษฐกิจสหรัฐเติบโต 6.3% ในไตรมาส 1 และ 6.7% ในไตรมาส 2 ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.3% ในไตรมาส 3 เนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบในภาคการผลิต ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่เศรษฐกิจสหรัฐกลับมามีการขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 4
อีกทั้งเมื่อพิจารณาทั้งปี 2564 เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 5.7% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังจากที่หดตัว -3.4% ในปี 2563 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2489 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19