FSSIA เชียร์ “ซื้อ” BGRIM เป้า 44 บ. เล็ง “SPP” ดันกำไร 1 พันล./ปี
FSSIA เชียร์ “ซื้อ” BGRIM เป้า 44 บ. เล็ง “SPP” ดันกำไร 1 พันล./ปี-ลุยเพิ่มกำลังผลิตหนุน โดยต้นทุนก๊าซถึงจุดต่ำสุดแล้ว ดังนั้นคาดกำไรจะฟื้นตัวราวไตรมาสละ 500-800 ลบ. จนถึงไตรมาส 4/66
นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ FSSIA ระบุในบทวิเคราะห์ โดยประเมินบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ว่าต้นทุนก๊าซจะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้ และจะมีจากธุรกิจโรงงานไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานช่วยเสริมการเติบโตของบริษัท
โดยจากการประชุมนักวิเคราะห์หลังประกาศงบการเงินไตรมาส 1/2565 FSSIA ระบุว่าทางฝ่ายผู้บริหารชี้ให้เห็นถึงสี่ปัจจัยหลักที่จะช่วยเสริมแนวโน้มรายได้ของบริษัทตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป ได้แก่ (1) ต้นทุนก๊าซจะลดลงต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง 2565 จากซัพพลาย์ก๊าซในประเทศที่เพิ่มขึ้น และการนำเข้า LNG (2) แผนการติดตั้งกำลังการผลิตเพิ่มยังสดใสเพิ่มขึ้นจาก 3.5 กิกะวัตต์ ในไตรมาส 1/2565 จะแตะ 7.2 กิกะวัตต์ ในปี 2568 (3) อัพไซด์จาก SPP จำนวน 7 แห่งเร็วนี้ๆ ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ทดแทนสัญญาชุดเดิมที่จะหมดอายุลง ซึ่งกำลังการผลิต 80% จากทั้งหมด 360 เมกะวัตต์ ผูกไว้ให้กับผู้ใช้ทางอุตสาหกรรมสำหรับครึ่งปีหลัง 2565-2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามแบบแผนที่วางไว้ โดยจากการคาดการณ์ของ FSSIA แล้วจะช่วยดันกำไรได้ราว 1,000 ล้านบาทต่อปี และ (4) BGRIM อยู่ในช่วงได้พลังขับเคลื่อนการเติบโตใหม่จากอุตสาหกรรม 4.0
ทั้งนี้ FSSIA มองว่าต้นทุนก๊าซจะลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก 441.60 บาท/mmbtu ในไตรมาส 1/2565 เป็น 400 บาท/mmbtu ภายในปลายปีนี้ ซึ่งจะช่วยทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นสำหรับ SPP จากคาดการณ์อัตราค่าไฟที่เพิ่มขึ้นของค่า Ft ในเดือน พ.ค. และจะเพิ่มขึ้นอีกในเดือน ก.ย. ถึงเดือน ธ.ค. 2565 นอกจากนั้นแล้ว BGRIM ยังจะนำเข้า LNG 0.5mt ในไตรมาส 1/2566 เพื่อทดแทนการใช้ก๊าซราว 15% ของ SPP จำนวน 21 แห่ง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าก๊าซได้ราว 7-10%
อย่างไรก็ดี BGRIM วางแผนที่จะขยายกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน และพลังงานสิ้นเปลือง ซึ่งพลังงานหมุนเวียนจะมี EIRR ที่สูง 12-18% สำหรับโซลาร์ฟาร์ม และวินด์ฟาร์มจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย รวมถึงความสามารถในการขยายกำลังการผลิตที่จะสูงถึง 1 กิกะวัตต์ จากโรงงานพลังงานน้ำในลาว
ด้านการเติบโตของกำลังการผลิตของพลังงานสิ้นเปลืองนั้นจะมาจากเวียดนามภายใต้แผน PDP จำนวน 8 ที่กำลังจะประกาศในเดือนมิถุนายนนี้ รวมถึงโรงงาน LNG-to-power ขนาด 2-3 กิกะวัตต์ ที่มี EIRR 10-12% จากคาดการณ์ของ FSSIA นอกจากนั้นแล้ว BGRIM ยังจะใช้จุดแข็งด้านปัจจัยพื้นฐานด้านไฟฟ้า การเข้าธุรกิจ data center การจัดการและบริหารพลังงาน และ smart grid ผ่านการร่วมทุนกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE
ทั้งนี้ FSSIA คงคำแนะนำ “ซื้อ” BGRIM ราคาเป้าหมาย 44 บาท โดยคาดว่ากำไร 34 ล้านบาท (ยังไม่รวมกำไร/ขาดทุนจาก FX) ของ BGRIM ในไตรมาสที่ 1/2565 นี้ มาจากต้นทุนก๊าซที่ต่ำ ซึ่งจะเป็นจุดที่ต่ำสุดแล้ว และคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวราวไตรมาสละ 500-800 ล้านบาทจนถึงไตรมาส 4/2566