จับตา! สภาฯพิจารณา “งบประมาณปี 66” วาระแรก วงเงิน 3.18 ล้านลบ.
สภาผู้แทนราษฎร เตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วาระแรก วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท ด้านฝ่ายค้านเตรียมปีดตก หลังพบร่างงบประมาณไม่ตอบโจทย์การฟื้นฟูประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 พ.ค. 2565) เป็นวันแรกที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วาระแรก ซึ่งจะใช้เวลาการพิจารณาจำนวน 3 วัน (31 พ.ค. – 2 มิ.ย. 2565) โดยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ฉบับนี้ มีวงเงินงบประมาณอยู่ที่ 3.185 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2565 จำนวน 85,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.74 แบ่งเป็น
- รายจ่ายงบกลาง 590,470 ล้านบาท
- รายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ 1,090,329 ล้านบาท
- รายจ่ายบูรณาการ 218,477 ล้านบาท
- รายจ่ายบุคลากร 772,119 ล้านบาท
- รายจ่ายสำหรับทุนหมุนเวียน 206,985 ล้านบาท
- รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ 306,618 ล้านบาท
หากพิจารณาการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลในปี 2566 นี้ จะเห็นได้ว่า งบประมาณหลักคล้ายกับปีที่ผ่านมา ซึ่งนำไปจ่ายเงินเดือน และค่าตอบแทนข้าราชการ พนักงานและลูกจ้างภาครัฐ นำไปใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ของแต่ละกระทรวงและหน่วยงานภาครัฐ กันไว้เป็นงบกลาง ชำระหนี้ภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพิจารณารายละเอียดร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2566 พบว่า ค่อนข้างมีความสุ่มเสี่ยงมาก โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีที่วิกฤต ทั้งโควิด-19 สงคราม เศรษฐกิจ ความขัดแย้งต่างๆ แต่วิธีการจัดงบประมาณไม่ตอบสนองในการแก้ปัญหาให้กับประเทศ ทำให้พรรคฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่า ไม่สามารถรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ฉบับนี้ได้ ต้องโหวตลงมติไม่รับร่าง เพราะการงดออกเสียงเป็นวิธีการลงคะแนนในภาวะงบประมาณปกติ การงดออกเสียงคือการแสดงมารยาท แต่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2566 ดูแล้ว คงปรับแก้อะไรไม่ได้ ดังนั้น จึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปงดออกเสียง
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประเมินว่า ฝ่ายค้านจะทำทุกอย่าง เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล ดังนั้น รัฐบาลไม่ใช่ทำแค่ให้ผ่าน แต่จะทำให้เห็นว่า รัฐบาลมีเสียงเข้มแข็งเพียงพอ เพื่อให้มีความเชื่อมั่นจะได้ง่ายต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
สอดคล้องกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2566 จะผ่านการพิจารณาอย่างแน่นอน และ ครม.จะได้ไปต่อจนถึงอภิปรายไม่ไว้วางใจ และจะผ่านไปได้ เป้าหมายคือทำงานหลักให้ประเทศจนครบอายุรัฐบาล