FSSIA ชู BGRIM ท็อปพิกโรงไฟฟ้า ลุ้นค่า Ft ดันกำไรปี 65 เพิ่มอีก 1.4 พันลบ.

FSSIA ชู 2 หุ้นเด่นกลุ่มโรงไฟฟ้า “BGRIM-GPSC” รับค่าเอฟทีอยู่ในระดับที่สูงตลอดทั้งปี คาดหนุนกำไร BGRIM 1.4 พันลบ. และ GPSC 1.5 พันลบ.


นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ FSSIA ระบุว่าการขึ้นค่า Ft จะเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงให้กับหุ้นโรงไฟฟ้าที่เผชิญกับต้นทุนก๊าซสูง

โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Bangkok Insight เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 ที่ระบุว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) วางแผนที่จะขึ้นค่า Ft THB0.4/kWh สำหรับเดือน ก.ย. ถึง ธ.ค. 2565 เพื่อชดเชยต้นทุนค่าไฟที่กฟผ.แบกรับ 3.89 หมื่นล้านบาทของช่วง 8 เดือนแรกในปี 2565 โดยทาง กกพ. ได้มีการปรับขึ้นค่า Ft ไปแล้ว THB0.1671/kWh ในช่วงเดือน ม.ค.- เม.ย. 2565 และ THB0.2338/kWh ในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. 2565 หลังจากที่ไม่มีการขึ้นค่า Ft มาตลอดปี 2565 เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจต้องหยุดลง

สำหรับ FSSIA มีมุมมองเชิงบวกต่อการขึ้นค่า Ft ครั้งนี้เนื่องจากสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ THB0.30-0.35/kWh โดยตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 เป็นต้นมาราคาต้นทุนก๊าซในประเทศไทยสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกว่าสองเท่าจนแตะ THB440/kWh ในไตรมาส 1/2565 ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการนำเข้าก๊าซ LNG ในราคาที่สูงกว่า USD38/mmbtu จากการขาดแคลนก๊าซจากแหล่งเอราวัณ และการรุกรานของรัสเซียในยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผู้ประกอบการ SPP ทั้งหมด

โดยเฉพาะ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM และ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ต้องเผชิญกับความไม่เท่าเทียมกันของอัตราการเก็บค่าไฟในกลุ่มผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นราคาที่เชื่อมตรงกับโครงข่ายอัตราไฟฟ้าแห่งชาติ และค่า Ft โดย FSSIA คาดว่าจะมีการขึ้นค่า Ft เพิ่มในเดือน ม.ค. ถึง เม.ย. 2566 ซึ่งจะอยู่ในระดับที่สูงตลอดทั้งปี และยังคงมองว่าราคาน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินจะยังคงสูงตลอดปีด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ จากต้นทุนพลังงานสำหรับโรงไฟฟ้าที่จะยังคงสูงอยู่ในครึ่งปีหลัง 2565-2566 จากความเสี่ยงด้านซัพพลาย ในขณะที่ความต้องการยังคงเพิ่มขึ้น FSSIA เชื่อว่าการขึ้นค่า Ft นั้นเป็นทางออกของเหล่า SPP ต่อมาร์จิ้นขายไฟให้กับกลุ่มผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม และการคาดการณ์ของ FSSIA ที่มองว่าต้นทุนก๊าซจะยังสูงไม่เปลี่ยนแปลงในครึ่งปีหลัง 2565 และจะปรับลดลงในปี 2566 จากกำลังการผลิตเพิ่มเข้ามาในตลาดของแหล่งเอราวัณ และบงกช ที่จะมีต้นทุนที่ถูกกว่าปัจจุบันราว 20-30% ทำให้ FSSIA มองว่าการขึ้นค่า Ft รวมทั้งหมด THB0.8/kWh (THB(0.1671+0.2338+0.40)/kWh) จะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิให้กับ BGRIM ได้ 1.4 พันล้านบาท และ GPSC 1.5 พันล้านบาท

นอกจากนี้ FSSIA มองว่า BGRIM เป็นหุ้นเด่นสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าของไทยในไตรมาส 2/2565 จากมาร์จิ้นของ SPP ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะจากการขึ้นค่า Ft นอกจากนั้นแล้วยังมีการเติบโตของกำไรจาก 5 โรงไฟฟ้าสตาร์ทอัพภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ฉบับทดแทนในครึ่งปีหลัง 2565 และการเติบโตของกำลังการผลิตจาก PDP ของเวียดนาม ซึ่งเมื่อเทียบกับ GPSC ที่ถึงจะมีอัพไซด์ด้านมาร์จิ้นจากการขึ้นค่า Ft แล้ว ส่วนกำไรในปี 2565 จะยังคงถูกต้นทุนกดดันจากราคาถ่านหินที่สูงขึ้น และกำไรที่อ่อนแอจากบริษัทในเครือ

Back to top button