ผ่านฉลุย ! สภาฯ 278 เสียงรับร่าง “งบประมาณฯ ปี66” วาระแรก ตั้ง กมธ.แปรญัตติ 30 วัน
สภาผู้แทนราษฎร โหวตรับร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้วยคะแนน 278 ต่อ 194 เสียง ด้านนายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกฝ่าย ผ่านร่างงบฯ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประเทศชาติ กรรมาธิการวิสามัญฯ นัดประชุมนัดแรก 6 มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 01.10 น. (03 มิ.ย. 65) หลังจากการอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 4 สมัยสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ วาระแรกในชั้นรับหลักการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมจึงได้ทำการลงมติเห็นชอบรับหลักการพ.ร.บ.ดังกล่าว วาระแรก ด้วยคะแนน 278 ต่อ 194 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง หลังจากใช้เวลาพิจารณามานาน 3 วัน 3 คืน จากนั้นที่ประชุมได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 72 คน
โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขอบคุณที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ร่วมกันพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ที่รัฐบาลเสนอ โดยมติส่วนใหญ่ให้ความเห็นชอบ พร้อมย้ำว่า แม้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีจะอยู่ภายใต้วงเงินงบประมาณรายจ่ายที่มีอย่างจำกัด แต่รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับประชาชนและผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ โดยการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฉบับนี้ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจและสังคมภายหลังภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นจากโรคโควิด 19 และสถานการณ์โรคในปัจจุบัน ตลอดจนขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติให้เกิดความต่อเนื่องในการสร้างโอกาส สร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ รวมทั้งสนับสนุนเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็ง และเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
สำหรับความเห็น ข้อสังเกต ข้อเสนอต่าง ๆ ของสมาชิกทุกคนอภิปรายไว้ พล.อ.ประยุทธ์ ขอฝากคณะกรรมาธิการวิสามัญที่สภาฯ นี้แต่งตั้งขึ้น นำไปใช้ประกอบในการพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ให้เป็นไปด้วยความรอบคอบยิ่งขึ้น รวมทั้งให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนตามที่มุ่งหวังทุกประการ
จากนั้นนายชวน หลักภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งกับที่ประชุมว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จะมีการกำหนดแปรญัตติใน 30 วัน โดยมีการนัดหมายประชุมนัดแรกในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมงบประมาณ พร้อมทั้งได้กล่าวปิดการประชุมสภาในเวลา 01.28 น.
อย่างไรก็ตาม สำหรับการอภิปรายตลอดทั้ง 3 วัน พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ตั้งคำถามถึงการจัดทำงบประมาณประเทศที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อฟื้นฟูประเทศ เพราะงบประมาณส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เป็นเงินค่าใช้จ่ายของระบบราชการ ทั้งเงินเดือนข้าราชการ เงินบำนาญ รวมถึงเงินที่ใช้ในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพ แทนที่จะเน้นการจัดงบประมาณเพื่อให้เกิดการลงทุน ทั้งในระดับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการแหล่งเงินทุนให้กลับมาฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โควิด-19 หรือกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ที่ต้องการการสนับสนุนให้เกิดการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างเม็ดเงินกลับมายังประเทศไทย นอกเหนือจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จะเป็นรายได้หลักของประเทศในปี 2565 โดยหลังจากนี้ ส.ส.แต่ละคนที่ยังติดใจในประเด็นต่างๆ จะเสนอเรื่องให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่ตั้งขึ้นได้พิจารณา ปรับลดงบปรุงงบประมาณฯในส่วนต่างๆ เป็นเวลา 30 วัน ก่อนส่งเรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาในวาระ 2 และ 3 ต่อไป