BA ปักหมุด Q2 สดใส อานิสงส์นทท.ฟื้น-ตั้ง “กองรีท” สนามบินสมุย

BA คาดผลงานไตรมาส 2/65 ฟื้นตัว หลังท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น -ตั้งกอง REIT สนามบินสมุย ภายใต้การบริหารของ บริษัท กรุงเทพ รีทแมเนจเมนท์ จำกัด ความชัดเจนในครึ่งปีหลัง


นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายงานการเงินและบัญชี บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน “Opportunity Day” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 7 มิ.ย.65 ว่าแนมโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2565 คาดว่ายังเห็นแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2565 จากการที่ในช่วงไตรมาส 2/2565 มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศคลี่คลายลงค่อนข้างมาก โดยที่แนวโน้มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทยอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

บริษัทมองว่าจำนวนผู้โดยสารยังค่อนข้างต่ำกว่าเป้าหมายที่บริษัทวางไว้หลังจากที่มีการเปิดประเทศ โดยส่วนหนึ่งคาดว่าจะมาจากมาตรการในการเข้าประเทศที่ยังมีขั้นตอนต่างๆในการเตรียมตัวเข้าประเทศอยู่และยังต้องมีการตรวจ ATK ในช่วงที่ผ่านมา และการแข่งขันของประเทศอื่นๆในภูมิภาคที่มีการเปิดประเทศ ทำให้เป็นปัจจัยที่อาจมีผลต่อการตัดสินเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย

โดยที่ทิศทางของภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยบริษัทยังมองว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นและคึกคักมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และเชื่อว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศออกมาเพิ่มเติมต่อเนื่อง ทำให้ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้มากขึ้นในครึ่งปีหลัง และช่วยผลักดันผลงานของบริษัทในครึ่งปีหลังของบริษัทให้ดีกว่าครึ่งปีแรก แต่ยอมรับว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ยังขาดทุน แต่ขาดทุนลดลงจากปี 2564

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีความผันผวน ซึ่งปัจจุบันบริษัทหันมาซื้อน้ำมันที่อิงตามราคาปัจจุบันแทนการซื้อราคาน้ำมันล่วงหน้า เพราะสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงด้านต้นทุนราคาน้ำมันได้ดีกว่า ทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่กระทบต่อราคาค่าโดยสาร ซึ่งบริษัทยังไม่มีแผนการปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร เพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้

นอกจากนี้การบริหารจัดการเครื่องบิน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 37 ลำ ในช่วงปลายไตรมาส 2/2565 ถึงสิ้นปี 2565 บริษัทจะทยอยส่งคืนเครื่องบินเช่าที่ครบสัญญาต่อเนื่องจำนวน 5 ลำ และอยู่ระหว่างการเจรจาขายเครื่องบิน ATR 72-500 กับผู้ที่สนใจซื้อ จำนวน 2 ลำ ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆนี้

ด้านแผนกลยุทธ์ของบริษัทในครึ่งปีหลังของปีนี้จะกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางการบินระหว่างประเทศอีกครั้ง ได้แก่ กรุงเทพ-มัลดีฟ กรุงเทพ-เสียมเรียบ และกรุงเทพ-ดานัง ที่เตรียมกลับมาเปิดบินในช่วงไตรมาส 3/2565 รวมถึงเที่ยวบินในประเทศบางเส้นทางที่จะกลับมาเปิดอีกครั้ง ได้แก่ กรุงเทพ-หาดใหญ่ และหาดใหญ่-สมุย ที่จะกลับมาเปิดในวันที่ 16 ก.ค.นี้ รวมถึงเส้นทางการบินเชื่อมระหว่างภูมิภาคในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่-สมุย จะกลับมาเปิดในไตรมาส 3/2565 เชียงใหม่-ภูเก็ต เชียงใหม่-กระบี่ และกระบี่-สมุย จะกลับมาเปิดในช่วงไตรมาส 4/2565 ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกในการเดินทาง และช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้กับบริษัท

“กลยุทธ์ของเราพยายามไม่แข่งขันด้านราคาโดยตรง แต่จะหันไปเน้นการเพิ่มความสะดวกในด้านเส้นทางการบินที่เพิ่มความสะวด และตอบโจทย์ความต้องการของผู้โดยสาร และราคาที่เหมาะสม รวมถึงการนำบริการต่างๆเข้ามาเพื่อให้ผู้โดยสารเห็นว่าราคาที่จ่ายให้กับบางกอกแอร์เวยส์ คุ้มค่า คุ้มราคา ทำให้มีความต้องการเดินทางกับบางกอกแอร์เวยส์ต่อเนื่อง” นายอนวัช กล่าว

นายอนวัช กล่าวอีกว่า  บริษัทจะหาแหล่งเงินทุนของบริษัทจะได้มาจากการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ภายใต้การบริหารของ บริษัท กรุงเทพ รีทแมเนจเมนท์ จำกัด เพื่อเช่าสิทธิการลงทุนในสนามบินสมุย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาในการจัดตั้งของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในครึ่งปีหลัง

สำหรับการก่อสร้างศูนย์การบินอู่ตะเภายังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้

Back to top button