STOWER หวังงบ Q2 พลิกกำไร รับรู้ธุรกิจฟิลิปปินส์-ลุ้นคว้างานเสาส่งเพิ่ม
STOWER ส่งซิก Q2/65 พลิกกลับมามีรายได้เพิ่ม เตรียมฟันกำไรจากการรับรู้ธุรกิจโทรคมนาคมในฟิลิปปินส์ คาดได้งานเสาส่ง-สถานีเพิ่ม
นายธีรชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ทาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STOWER กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 1/65 โดยคาดหวังว่าผลการดำเนินงานพลิกกลับมามีกำไรได้ในไตรมาส 2/65 ที่จะมีการรับรู้รายได้จากประเทศฟิลิปปินส์เพิ่มเข้ามาจากในไตรมาส 1/65 ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจบริการด้านโทรคมนาคมในประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท Network Service Inc. (QNSI) ซึ่งบริษัทเข้าไปถือหุ้น 67% ผ่านบริษัท อัลตร้า เอเชีย จำกัด เข้ามาเพียง 1 เดือนในช่วงเดือน มี.ค. 65
ขณะที่แนวโน้มภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 65 ทั้งปี เชื่อมั่นว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ จากปีก่อนที่ขาดทุนราว 50 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ในปี 65 ที่ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 250 ล้านบาท และในส่วนของธุรกิจเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและสถานีไฟฟ้าย่อยนั้น คาดว่าในปี 65 หน่วยงานภาครัฐ คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) จะมีงานเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงออกมาราว 4 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทก็มีความคาดหวังว่าจะได้งานเข้ามาราว 20-25% จากความมั่นใจที่บริษัทเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงในอุตสาหกรรม
สำหรับการสร้างสถานีโทรคมนาคมให้เช่าในฟิลิปปินส์ ในปี 65 ตามแผนจะต้องมีการเพิ่มจำนวน 240 สถานี ซึ่งจะมีการส่งมอบสถานีชุดแรก 61 สถานี ในเดือน ก.ค. 65 หลังจากนั้นจะเริ่มดำเนินการสถานีชุดสอง 60 สถานี ในช่วงเดือน ก.ค. 65 และอีก 120 สถานีจะเริ่มดำเนินการในเดือน ก.ย. 65 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 64 ที่มีสถานีโทรคมนาคมให้เช่าแล้ว 9 สถานี ที่มีการรับรู้รายได้ค่าเช่าเสา อย่างไรก็ตามในช่วงปี 66 เพิ่มเป็น 240 สถานี และในปี 67 เพิ่มเป็น 240 สถานี ซึ่งจะส่งผลให้มีสถานีโทรคมนาคมให้เช่ารวม 729 สถานี
โดยที่เป็นสิทธิการเช่าระยะยาว สัญญา 20 ปี ส่วนรายได้ค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้นปีละ 4% ตลอดอายุสัญญา อีกทั้งทุกสถานีที่ลงทุน จะต้องมีสัญญาเช่าก่อนแล้ว ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 4 เดือน และยังได้รับค่าเช่าล่วงหน้า รายไตรมาสและรายปี ซึ่งลูกค้าก็จะเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกราย ที่มีความต้องการเสาโทรคมนาคมจำนวนมาก เพื่อให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นตามสัญญาที่ทำไว้กับพันธมิตร