จัดทัพ 30 หุ้น “พีอี” ต่ำ ฟาก ASP ครองแชมป์ “ปันผล” สูง 12%
จัดทัพ 30 หุ้นกลาง-เล็ก “พีอี” ต่ำ พ่วงปันผลสูง ชู ASP ยีลด์สูงสุด 12% ส่วน SONIC-IMH ส่งซิกผลงานโตเด่น
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีอัตราส่วนทางการเงินที่เทียบกันระหว่าง Price/Earning Per Share (ราคา หารด้วยกำไรสุทธิต่อหุ้น) หรือ P/E ต่ำ เมื่อเทียบกับ P/E ตลาดที่ระดับ 19.22 เท่า และมีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง มาประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้นักลงทุนเห็นภาพชัดเจน ว่าหุ้นเหล่านี้ราคาปรับตัวขึ้นเกินพื้นฐานหรือไม่ โดยหุ้นที่ P/BV ต่ำ ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่หุ้นที่ P/BV สูงมีโอกาสที่จะถูกขายทำกำไรออกมา
โดยวันนี้จะทำการคัดเลือกหุ้นกลุ่มเล็ก-กลาง ที่เข้าเกณฑ์หุ้น P/E ต่ำ ประกอบด้วย RPC, MCS, SENA, TKS และ AGE เป็นต้น
ทั้งนี้ จากตารางข้างต้นพบว่ามีหุ้นปันผลสูงเกิน 10% มีทั้งหมด 4 หลักทรัพย์ ได้แก่ ASP, LHK, TRITY และ MCS เป็นต้น
ด้านนายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BIZ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 ที่ 1,500-1,600 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) 1,312 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ ในขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง มูลค่าราว 500-700 ล้านบาท ที่จะเข้ามาช่วยหนุนการเติบโตของรายได้เพิ่มเติม
ด้านโรงพยาบาล เฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์ อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีการเติบโต คาดว่าจะมีรายได้ราว 80-100 ล้านบาท ในปีนี้ โดยปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายลงทำให้ผู้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทยังคงดำเนินการประชาสัมพันธ์ เพื่อที่จะทำประชาชนรับรู้และเข้ามาใช้บริการมากขึ้นด้วย
“ผลประกอบการในปีนี้อาจจะเทียบในปีก่อนไม่ได้ เพราะในปีก่อนมีการรับรู้รายได้จากโครงการศูนย์รักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอนของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มูลค่า 980 ล้านบาท แต่ในปีนี้ไม่มีโครงการพิเศษแบบนั้นแล้ว แต่หากตัดโครงการดังกล่าวออก ในปีนี้บริษัทก็ยังถือว่ามีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง” นายสมพงษ์ กล่าว
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ คาดกำไรปี 65 ของ SONIC โต 17.7% จากปีก่อน จากเดิมที่คาดทรงตัวจากการเพิ่มทั้งปริมาณการขนส่งทางเรือและค่าระวางเรือ คาดกำไรปี 66-67 โตชะลอ +3.9% จากปีก่อน และ +3.8% จากปีก่อน ตามลำดับ คิดเป็นเติบโตเฉลี่ย 8.3% ในปี 65-67 ให้ราคาเป้าหมายที่ 4.60 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น IMH ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 30.30 บาท และคาดการณ์ของฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวม Upside ที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าลงทุนโรงพยาบาลแห่งใหม่เพิ่ม และการสปินออฟธุรกิจโรงพยาบาลในอนาคต
ดร.สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IMH เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 106.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 817% ขณะที่รายได้รวม อยู่ที่ 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 490.64% จากงวดเดียวกันปีก่อน สาเหตุที่กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯมีการขยายตัวของธุรกิจโรงพยาบาล จากการรับรู้รายได้และกำไร ของโรงพยาบาล ประชาพัฒน์
รวมถึงบริษัทฯมีกา บริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประกอบกับ IMH มีการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของกลุ่ม IMH ในเชิงบวก และคาดว่าจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ซึ่งเป็นการสอดรับกับแผนในการขยายและต่อยอดของบริษัทฯที่คาดว่าจะมีข่าวดีต่อเนื่องในปีนี้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังเตรียมพร้อมรับรู้แหล่งรายได้ใหม่หลังโควิดเป็นโรคประจำถิ่น เช่น กลุ่มลูกค้าเงินสดระดับกลาง และลูกค้าบริษัทที่เพิ่มสะสมมากขึ้นในช่วงโควิด-19 ส่งผลให้บริษัทฯมั่นใจว่า ในปี 2565 รายได้รวมมีโอกาสทะลุ 1,200 ล้านบาท อย่างแน่นอน