TEKA ชูพื้นฐานแกร่ง มั่นใจเทรด 15 มิ.ย. กระแสแรง ลุยประมูลงานรัฐ-เอกชนเต็มสูบ
TEKA ขายหุ้นไอพีโอเกลี้ยง 75 ล้านหุ้น สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุน ชูศักยภาพธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เติบโตเด่น รับปัจจัยบวกระยะยาวจากแผนการขยายเมือง ลุ้นคว้างานอาคารขนาดใหญ่ของภาครัฐ-เอกชน ปักธงเทรด 15 มิ.ย.นี้
นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA กล่าวว่า ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ทำให้การเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม เงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 328.45 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับงานก่อสร้างที่อาจเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ทั้งในด้านจำนวนโครงการและมูลค่าโครงการ รวมถึงใช้ในการจัดหา ซ่อมแซม และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์การก่อสร้างต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสการเข้าประมูลงานโครงการที่ทยอยออกมาเพิ่มขึ้น และสนับสนุนการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่างานที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบ (Backlog) จำนวน 1,689.24 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้และปีหน้า อีกทั้งโอกาสจากการเข้าร่วมประมูลงานใหม่รับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กลับมาฟื้นตัวชัดเจน
โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ มีงานโครงการที่อยู่ในแผนการประมูลในปี 2565 จำนวน 20 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 15,400 ล้านบาท ซึ่งปกติแล้ว บริษัทฯ มีอัตราการชนะการประมูลงานอยู่ที่ประมาณ 20-25% ของการเข้าร่วมประมูล และจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายปี 2565 ให้เติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,605.04 ล้านบาท กำไรสุทธิ 126.02 ล้านบาท ย้ำความเชื่อมั่น TEKA เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของประเทศไทย ที่จะเข้ามาสร้างการเติบโต และสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุนในระยะยาว
นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม กล่าวว่า การจองซื้อหุ้น IPO ของ TEKA จำนวน 75 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.60 บาท กำหนดเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอ วันที่ 2 – 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจองซื้อเข้ามาเกินกว่าจำนวนที่จัดสรร สะท้อนความเชื่อมั่นธุรกิจ และแผนการเติบโตที่ชัดเจน โดยเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 15 มิถุนายน 2565 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายคือ “TEKA” เข้าเทรดในหมวดธุรกิจบริการรับเหมาก่อสร้าง
โดยปัจจัยที่สนับสนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน มองว่ามาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ TEKA ทั้งในด้านผลการดำเนินงาน และโอกาสการเติบโตในอนาคต จากการขยายพอร์ตงานก่อสร้างที่หลากหลาย และมูลค่างานที่สูงขึ้น อีกทั้ง การกำหนดราคาไอพีโอที่ 4.60 บาทต่อหุ้น คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 9.91 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม
นายโยธิน วิริเยนะวัตร์ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม กล่าวว่า TEKA ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้ เนื่องจาก TEKA เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้างที่โดดเด่นในงานอาคารขนาดใหญ่ ด้วยฐานลูกค้าในการรับงานจากอดีต ทำให้บริษัทฯ เชี่ยวชาญในการรับงานจากภาครัฐบาลและเอกชน โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน จะสนับสนุนให้บริษัทฯ พร้อมขยายงานในอนาคตครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม
โดยมุ่งเน้นงานที่สามารถรักษาระดับอัตรากำไรที่ดี อาทิ อาคารคอนโดมิเนียม โรงแรม อาคารสำนักงาน อาคารโรงพยาบาล อาคารคลังสินค้า รวมถึงอาคารทำการต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ เป็นต้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง ทำให้มองว่า TEKA มีแนวโน้มเติบโตแบบ Growth Stock สอดรับกับการฟื้นตัวในภาพรวมของเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศ
ส่วนในด้านผลการดำเนินงานของ TEKA ในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 600.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 440.64 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 53.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 40.41 ล้านบาท ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้น 16.7% และอัตรากำไรสุทธิ 8.9% ถือว่าความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม และปีนี้มั่นใจ งานในมือที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบตามแผน จะสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามที่วางไว้