“มิ่งขวัญ” เปิดตัวพรรค “โอกาสไทย” เสนอตัวชิงนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ จัดแถลงข่าวเปิดตัวพรรคการเมือง ว่า โดยบอกว่าตนเงียบไปหลังจากที่ลาออกจาก ส.ส. ประมาณ 2-3 เดือนนั้น ยังทำงานการเมืองอยู่ และเตรียมการเลือกตั้งสมัยหน้า  โดยมีการตั้งพรรคการเมืองที่มีชื่อว่า “โอกาสไทย” ซึ่งหมายถึงโอกาสของคนไทยทุกคน ตัวอักษรชื่อใช้สีเขียวสะท้อนแสง ซึ่งหมายถึงเมืองเกษตรกรรม และสีชมพูคือความทันสมัยและคนรุ่นใหม่ โดยขณะนี้พรรคยังอยู่ในกระบวนการจดจัดตั้งพรรคกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.อยู่

นายมิ่งขวัญ ยังประกาศว่าเชิญชวนประชาชนที่สนใจในความคิด และอุดมการณ์ ในภาวะที่ประเทศไทยมีวิกฤตเศรษฐกิจ จึงอยากเชิญชวนผู้ใหญ่คนหนุ่ม คนสาวหรือคนรุ่นใหม่ที่สนใจที่จะร่วมอุดมการณ์เข้ามาทำงานทางการเมืองร่วมกัน

ส่วนกระแสข่าวที่จะไปร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจไทยนั้น นายมิ่งขวัญ ระบุว่า ส่วนพูดคุยกับนักการเมืองทุกกลุ่มอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ตัดสินใจจะไปร่วมงานกับใคร เพราะตนบอกว่าจะทำพรรคการเมือง แต่ไม่ได้บอกว่าชื่ออะไร จนนำไปสู่การจัดตั้งพรรค “โอกาสไทย”

เมื่อถามต่อถึงจุดยืนของพรรคเป็นอย่างไร จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่นั้น นายมิ่งขวัญ ปฏิเสธที่จะตอบเรื่องนี้ แต่จุดยืนคือประชาธิปไตย ตอนนี้ยังไม่ร่วมกับพรรคไหน จะขอเปิดเผยในการแถลงข่าวในครั้งหน้า เพราะตอนนี้ยังไม่รู้จะได้ส.ส.เท่าไหร่ แต่คนที่จะเข้าร่วมกับพรรคต้องเป็นคนที่สนใจแก้ปัญหาปากท้องประชาชน และมีคนสนใจเข้าร่วมกับพรรคระดับหนึ่ง มีความหลากหลายมีทั้งผู้ใหญ่และคนอายุน้อย จากสายวิชาการ สายการศึกษา สายเกษตร ซึ่งอาจจะเป็นคนหน้าใหม่ แต่ขอยังไม่บอกว่าเป็นใครบ้าง

ทั้งนี้มีรายงานว่า ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง บุตรชาย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. เข้าร่วมรับฟังการแถลง โดยระบุว่า ขอเข้าร่วมรับฟังการเปิดตัวพรรคของนายมิ่งขวัญ รวมถึงนโยบายของพรรค ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจ โดยขอเวลา 1 เดือน ก็คงจะต้องพูดคุยกับนายมิ่งขวัญก่อน เพราะในช่วงที่ทำงานกรุงเทพฯ มา 2 ปีครึ่ง ประเด็นหลักที่คนพูดถึงคือเรื่องเศรษฐกิจ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ และการมาในวันนี้เป็นการตัดสินใจมาส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพล.ต.อ.อัศวิน เพราะ พล.ต.อ.อัศวินไม่เล่นการเมืองแล้ว