BEM โบรกชี้กำไร Q2 ฟื้นตัว! อานิสงส์ผู้โดยสาร “ทางด่วน-MRT” ดีขึ้น ชูเป้า 10 บ.   

BEM โบรกชี้กำไร Q2 ฟื้นตัว! อานิสงส์ผู้โดยสาร “ทางด่วน-MRT” หลังจากตั้งแต่เดือน พ.ค.ดีขึ้น แต่กำไรเร่งตัวขึ้นในครึ่งหลังปี 2565 หากบริษัทสามารถปรับราคาค่าโดยสารขึ้นได้ 2% ในปีนี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10 บ.   


บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM รายงานจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยรายวันใน พ.ค. 2565 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยทางด่วน จำนวนผู้โดยสารในพ.ค. สูงขึ้น 6% เทียบจากเดือนก่อนหน้า และ 56% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นเฉลี่ย 1 ล้านเที่ยว ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดิน จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 28% เทียบจากเดือนก่อนหน้า ในพ.ค. และ 154% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นเฉลี่ยรายวัน 229k เที่ยว ส่วนจากไตรมาสก่อนหน้าถึงปัจจุบัน (สิ้นพ.ค. 32565), จำนวนผู้โดยสารทางด่วนเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 44% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และรถไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มขึ้นสูงกว่า โดยเพิ่ม 9% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 71% จากงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทคาดโมเมนตัมจะดำเนินต่อไปยังมิ.ย. 2565

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มองโมเมนตัมกำไรจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2565 ส่วนกำไรไตรมาส 1 ปี 2565 ต่ำกว่าคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผลกระทบจากโอไมครอน ปรับคาดการณ์กำไรปี 2565-25666 ลง 25% เพื่อสะท้อนผลของโอไมครอน แต่กำไรเร่งตัวขึ้นในครึ่งหลังของปี 2565 หากบริษัทสามารถปรับราคาค่าโดยสารขึ้นได้ 2% ในปีนี้ โดยสัญญาสัมปทานระหว่าง บริษัทกับ รฟม. อนุญาตให้ค่าโดยสารปรับขึ้นทุก 2 ปี อ้างอิงตาม CPI ของกรุงเทพฯ ไม่รวมอาหาร การปรับครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในก.ค. 2565 และรอบนี้จะเป็นในก.ค. 2565 บริษัทได้แจ้งต่อรฟม. แล้วว่าจะปรับขึ้นค่าโดยสาร แต่รฟม. อยู่ระหว่างการพิจารณา เวลาการปรับขึ้น อาจมีความล่าช้าในการปรับราคาแต่ในระดับเดือน ไม่ใช่ระดับปี ใช้สมมติฐานว่าบริษัทจะปรับค่าโดยสารขึ้นในม.ค. 2566

ทั้งนี้คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 10 บาท โดยปรับคาดการณ์กำไรแค่ช่วงปี 2565-2566  ธีมหลักของ BEM คือกำไรจะสร้างจุดสูงสุดใหม่ช้าลงจากปี 2565 เป็นปี 2566 และ BEM ยังคงเป็นหุ้นในธีมกำไรฟื้นตัว ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังปรับขึ้นต่อได้จากระดับนี้

Back to top button