COLOR ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% ออเดอร์ “ถุงห่อ-ฟิล์มคัดกรองแสง” พุ่ง หลังปลดล็อก “กัญชา”

นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) หรือ COLOR เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้พืชกัญชาไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ในปี พ.ศ. 2565 นับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ซึ่งมีผลให้ทุกส่วนของกัญชา-กัญชง ไม่เป็นยาเสพติดประเภท 5 ยกเว้นสารสกัดที่มี THC เกิน 0.2% ทำให้ประชาชนสามารถปลูกได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องจดแจ้ง มองเป็นปัจจัยหนุนธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา-กัญชง

รวมทั้งผลบวกต่อบริษัทที่ปัจจุบันได้มีการขยายธุรกิจภาคการเกษตร ได้แก่การฟิล์มคัดกรองแสง  Meet-1 โรงเรือนปลูกกัญชา ป้อนให้กับวิสาหกิจชุมชน  และถุงห่อ Magik growth ให้กับชาวสวนผลไม้

“โดยการปลดล็อก ให้พืชกัญชาไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษ และประชาชนสามารถปลูกได้ ส่งผลให้ความต้องการเพิ่ม บริษัท ได้รับออเดอร์การสั่งซื้อถุงปลูก  Magik growth  เพื่อเพิ่มผลผลิตมากขึ้น ซึ่งทำให้ครอบคลุมในทุกขนาดต้นกัญชา ได้แก่ ต้นกล้า  สายพันธ์นอก หรือ สายพันธ์ไทย นอกจากนี้ยังได้รับออเดอร์จากชาวสวนผลไม้ เช่น สวนทุเรียน เพื่อเพิ่มผลผลิตอีกด้วย ซึ่งจะสนับสนุนรายได้และการเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต” นายพีรพันธ์  กล่าว

ขณะที่ธุรกิจภาคการเกษตร จะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ช่วยเพิ่มฐานลูกค้า และต่อยอดธุรกิจ นอกเหนือจากธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก และการผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยปีแรกตั้งเป้ายอดขายประมาณ 1-2% ของยอดขายรวมของบริษัท และเพิ่มเป็น 3-5% ในปี 2566  จากการขยายการตลาดในส่วนถุงปลูก และถุงห่อ ส่งออกกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างการศึกษา และสนใจการขยายตลาดในประเทศเวียดนาม

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ของบริษัทในปี 2565 จะเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมา  โดยมาจากธุรกิจเดิม ธุรกิจอุตสาหกรรมพลาสติกที่ยังเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งธุรกิจพลังงานทดแทน ผ่านบริษัทย่อย บริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ จำกัด ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) เพื่อใช้สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ

นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนใหม่ๆ ต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น