“ฟินันเซีย” แนะ “ซื้อ” SISB เป้า 15 บ. ชี้กำไร Q2 เด่น ดันทั้งปีโต 40%
SISB โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 15 บ. ชี้กำไร Q2 แตะ 69 ลบ. โต 8.8% ฟื้นหลังโควิดคลี่คลาย กลับมาเรียนออนไซต์ และจะดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ดันกำไรทั้งปีโต 35.90%
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (16 มิ.ย.2565) โดยประเมิน บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ว่า ทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 ของ SISB อยู่ที่ 69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.80% จากไตรมาสก่อน ฟื้นเป็นลำดับหลังโควิดคลี่คลาย และโรงเรียนกลับมาทำการเรียนการสอน On site ตามปกติ ล่าสุดจำนวนนักเรียนกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด คาดการณ์กำไรดังกล่าวอยู่บนสมมติฐาน (1) คาดรายได้รวมเพิ่มขึ้น 3.80% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 10.70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามจำนวนนักเรียนที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2,550 คน (ไม่รวมสาขาเชียงใหม่) จาก 2,437 คนในไตรมาสก่อน จากการกลับมาเรียนตามปกติ และเด็กเล็กที่มีทิศทางที่ดีขึ้น
(2) สมมติฐานอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาที่ 4.58 แสนบาทต่อคนต่อปี ใกล้เคียงกับที่ทำได้ในไตรมาส 1/2565 และ (3) คาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นที่ 49.50% ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 49.20% ในไตรมาส 1/2565 ตามจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่
โดยโมเมนตัมกำไรในครึ่งปีหลัง 2565 จะยังขยับขึ้นเนื่องจากโรงเรียนมีแผนปรับค่าธรรมเนียมการศึกษาขึ้นอีก 5% ซึ่งทางฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นราว 10-12% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก และจำนวนนักเรียนมีโอกาสดีกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์ทั้งปีที่ 2,600 คน (ไม่รวมเชียงใหม่) เนื่องจากนักเรียนต่างชาติมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นหลังเปิดประเทศ เบื้องต้นทางฝ่ายวิจัยคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.90% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ยังคงคาดกำไรปี 2566 เพิ่มขึ้น 39.10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 394 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากการเปิด 2 Campus ที่นนทบุรีและระยอง ทั้งสองสาขาสามารถรับนักเรียนเต็มความจุที่ละ 1,000 ที่นั่ง เบื้องต้นทางฝ่ายวิจัยคาดว่าจำนวนนักเรียนของสาขาเดิมจะเพิ่มขึ้นปีละ 300 สาขา แต่หากรวมสาขาโรงเรียนใหม่ทั้งสองแห่ง คาดจำนวนนักเรียน (ไม่รวมสาขาเชียงใหม่) ในปี 2566 จะเพิ่ม 600 ที่นั่ง รวมจำนวนนักเรียนปี 2566 จะอยู่ที่ 3,200 คน ประกอบกับอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาที่ใกล้เคียงกับสาขากรุงเทพ จึงน่าจะเห็นการเติบโตของรายได้รวมปี 2566 อยู่ที่ 25% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 51% ในปี 2566 ขยับขึ้นจาก 49.40% ในปี 2565 ทั้งนี้การขยายสาขาไปยังหัวเมืองต่างๆ ทั้งนนทบุรีและระยอง ทำให้ผลประกอบการตั้งแต่ปี 2565 ถึงปี 2569 กลับเข้าสู่ Growth Stage อีกครั้ง
อย่างไรก็ดีปรับประมาณการกำไรปี 2567- 2569 ขึ้น 2-5% โดยปรับเพิ่มจำนวนนักเรียนขึ้นปีละ 100 คนจากการกลับมาของชาวต่างชาติหลังโควิดและการตอบรับที่ดีของผู้ปกครองสำหรับสาขาโรงเรียนใหม่ ประมาณการที่ปรับขึ้นทำให้การเติบโตของกำไรปี 2565- 2569 ปรับขึ้นเป็นเฉลี่ย 29.30% CAGR (จากเดิม เพิ่มขึ้น 27% CAGR ) สำหรับต้นทุนค่าอาหารที่สูงขึ้นราว 3- 4% และค่าก่อสร้างโรงเรียนสาขาใหม่ที่ขยับขึ้นบ้าง โดยอาจไม่สามารถส่งผ่านได้ทั้งหมด ทางฝ่ายวิจัยเชื่อว่าผลกระทบไม่มีนัยสำคัญต่อประมาณการ ทั้งนี้ได้ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมปี 2565 ขึ้นเป็น 15 บาท สะท้อนการเติบโตระยะยาวที่สูงขึ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ”