สธ.จ่อชง ศบค. ปรับพื้นที่สีเขียวทั้ง ปท.- “ผับ-บาร์” ปิดเวลาปกติ
กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอ ศบค.ปรับพื้นที่โควิดเป็นสีเขียวทั้งประเทศ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยหนักแนวโน้มดีขึ้น แม้จะมีการผ่อนคลายให้เปิดสถานบันเทิง ขณะที่ ศปก.ศบค.หารือให้เกิดสถานบันเทิงสามารถปิดได้ตามเวลาปกติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการประชุม ศบค.ในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 2565) ว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอให้ปรับพื้นที่เป็นสีเขียว หรือพื้นที่เฝ้าระวังทั่วประเทศ ซึ่งผ่านการพิจารณาในที่ประชุม ศปก.ศบค.แล้ว
ขณะเดียวกัน ทาง พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะผู้อำนวยการ ศปก.ศบค. ได้โทรศัพท์มาสอบถามว่า หากจะให้สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ เปิดบริการตามเวลาที่กฎหมายกำหนดได้หรือไม่ โดยตนหารือกับ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีกรมควบคุมโรคแล้วก็เห็นว่า หากเปิดถูกต้องตามกฎหมายจริงๆ ก็ไม่มีข้อขัดข้องใด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ก็จะให้ความเห็นนี้ในที่ประชุม ศบค. แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ส่วนการถอดหน้ากากอนามัยนั้น นายอนุทิน ย้ำว่า ไม่มีการประกาศให้ถอดอยู่แล้ว เพราะเป็นมาตรการสังคม ซึ่งการให้ถอดหน้ากากเลยไม่ใช่เจตนารมณ์ของกระทรวงสาธารณสุข แต่ก็จะประเมินสถานที่ให้ถอดได้ และมีข้อแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคอยู่
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับพื้นที่สีเขียวว่า จะมีการเสนอให้ทุกจังหวัดปรับเป็นพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่เฝ้าระวัง ส่วนมาตรการว่าอะไรทำได้บ้างก็จะเป็นไปตามที่เคยประกาศไว้ ซึ่งตามแนวทางที่วางไว้สามารถทำได้เกือบทุกอย่างตามกฎหมาย น่าจะไม่มีข้อห้ามอะไรแล้ว
ส่วนที่มีการขอความเห็นให้เปิดผับบาร์ คาราโอเกะตามเวลาที่กฎหมายกำหนด ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะให้ความเห็นในที่ประชุม ศบค.ว่าไม่ได้มีข้อกังวลอะไร เป็นไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามกรมควบคุมโรคจะมีการเฝ้าระวังจากจำนวนผู้ป่วยรุนแรง ผู้เสียชีวิต เช่นวันนี้ (16 มิ.ย. 2565) ผู้ใส่ท่อช่วยหายใจลดต่ำมากแล้วเหลือประมาณ 2-3 ร้อยราย แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังต้องรอการพิจารณาของ ศบค.ด้วย
เมื่อถามว่าหากไม่มีการระบุพื้นที่ให้ถอดหน้ากากได้ ประชาชนก็อาจเข้าใจไม่ตรงกันนั้น นพ.โอภาส ระบุว่า การสวมหน้ากากอนามัย ไม่ได้มีประเด็นอะไร แต่ยังตีความกันอยู่ว่าเป็นการบังคับหรือการแนะนำ เพราะเราไม่เคยไปจับปรับคนไม่สวมหน้ากาก แต่กระทรวงสาธารณสุข ก็ยังแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเท่าที่เป็นไปได้ ส่วนการถอดหน้ากากได้ก็ตามที่เคยแนะนำ เช่น รับประทานอาหาร อยู่คนเดียว อยู่ห่างกัน หรืออยู่ในที่อากาศถ่ายเท กลางแจ้ง