“ทิสโก้” แนะสอย 42 หุ้น พื้นฐานแกร่ง ยก KBANK “ท็อปพิก” เป้า 178 บ.

 “ทิสโก้” แนะสอย 42 หุ้น พื้นฐานแกร่ง แนะหาจังหวะสะสม ยก KBANK “ท็อปพิก” อานิสงส์แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น หนุนกำไรปีนี้เพิ่ม เป้า 178 บ.


บริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ถึงกลยุทธ์การลงทุน โดยยังไม่แนะนำการเก็งกำไรระยะสั้นแต่หากรับความเสี่ยงได้สูง เสี่ยงซื้อที่ SET โซน 1,580-1,600 จุด และใช้ Stop Loss หากปิดต่ำกว่า 1,570 จุด สำหรับการรีบาวด์ทางเทคนิค มองไม่เกิน 1,620-1,630 แล้วลงต่อ ซึ่งพอร์ตการลงทุนแนะหาจังหวะอ่อนตัวสะสม

ทั้งนี้หุ้นที่น่าสนใจ มีปัจจัยพื้นฐานเด่น ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ซึ่งแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของ FED ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดจะหนุนให้กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายขึ้นด้วย โดยทางฝ่ายวิจัยมอง KBANK เป็นธนาคารอันดับต้นๆ ที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศเริ่มเข้าสู่ขาขึ้น ทั้งนี้หากกนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ส.ค. คาดจะช่วยหนุนกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น 1.10% และปีหน้า 3.30% อีกทั้งราคาหุ้นยังฟื้นตัวน้อยและการประเมินมูลค่าไม่แพง กำหนดราคาเป้าพื้นฐานไว้ที่ 178 บาท

อย่างไรก็ดีการประชุม กนง.กังวลเงินเฟ้อมากขึ้นเปิดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิม มองดีต่อ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, KBANK, บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB, บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH, บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA

ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากจีนคลายล็อกเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง ได้แก่ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU, บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP, บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA, บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF

หุ้นพื้นฐานดีที่มีสัญญาณเงินนอกไหลเข้า แต่ราคายังปรับขึ้นช้าอยู่ ได้แก่ บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL, บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS, บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC

หุ้น Re-opening ที่ราคายังปรับขึ้นช้า – ค้าปลีก ได้แก่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR

หุ้นกลุ่มนิคมฯ ได้แก่ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA, บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA

หุ้นกลุ่มอื่นๆ ได้แก่ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, BDMS, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM, บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR, กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ TFFIF

หุ้นสู้เงินเฟ้อ-ได้ประโยชน์จากราคาสินค้าปรับขึ้นและบาทอ่อน ได้แก่ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN, บริษัท ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ CFRESH, CPF, บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT, บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA, บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA, บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE, SMPC, บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG, บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU, บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC

หุ้น Defensive Value ที่สามารถลงทุนได้ทั้งระยะสั้น-กลาง ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC, BDMS, บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO

Back to top button