โบรกเคาะซื้อ FSMART เป้า 22 บ. ชี้ครึ่งปีหลัง ตู้บุญเติมฟื้น-เต่าบินหนุน
จบกระแสดราม่า! FSMART ยกเลิกขายเครื่องดื่มส่วนผสมกัญชาตู้เต่าบินไร้กระทบ เดินหน้าขยายตู้เพิ่มหลังกระแสความนิยมของผู้บริโภคมาก ส่วนครึ่งหลังปี 2565 ธุรกิจตู้บุญเติมที่ทยอยฟื้นตามภาวะเศรษฐกิจ โบรกแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 มิ.ย. 2565) ประเมินต่อ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART กรณีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย. 2565) ว่า เต่าบินยกเลิกการขายเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชาหลังมีกระแสสังคมว่าเด็กสามารถเลือกกดซื้อเครื่องดื่มผสมกัญชาได้โดยง่ายบริษัทแจ้งว่าเป็นการสนับสนุนประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา)
ทั้งนี้พร้อมชี้แจงว่าส่วนผสมของกัญชาในเครื่องดื่ม มีปริมาณ 0.001% น้อยกว่าที่กฎหมายกาหนด (0.2%) ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่รวดเร็ว ถูกต้อง และรับผิดชอบต่อสังคม ความเสียหายที่เกิดจากวัตถุดิบที่สูญเสียเชื่อว่าไม่มีนัยสำคัญ ปัจจุบันตู้เต่าบินยังอยู่ในกระแสความนิยมของผู้บริโภค ตัวเลขสถิติเดือน พ.ค. 2565 ที่ผ่านมายังเติบโตต่อเนื่อง ขายได้เฉลี่ย 80 แก้วต่อตู้ต่อวัน ราคาขายเฉลี่ย 35 บาทต่อแก้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขาย 67-70 แก้วต่อตู้ต่อวัน ราคาเฉลี่ย 33 บาทต่อแก้วจานวนตู้เต่าบินทั้งหมดที่ติดตั้งสิ้นเดือน พ.ค. มีราว 1,600 ตู้เศษ ด้วยปริมาณการติดตั้งตู้ได้ 15 ตู้ต่อวันในเดือน พ.ค. 2565 จะเร่งขึ้นเป็น 20 ตู้ต่อวันในเดือน มิ.ย. และ 25 ตู้ต่อวันในเดือน ก.ค. 2565
นอกจากนี้ผู้บริหารมั่นใจว่าสิ้นปี 2565 จะติดตั้งได้ 5,000 ตู้และ 20,000 ตู้ภายใน 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้คาดว่าในเดือน มิ.ย. 2565 ตู้เต่าบินจะสร้างรายได้ได้ 125-130 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 25-30 ล้านบาท ทำให้ FSMART รับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามา 1 เดือนราว 7 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2565 ตามสัดส่วนที่ถือ 26.71%
อีกทั้งทางฝ่ายคาดว่าธุรกิจตู้บุญเติมในไตรมาส 2 ปี 2565 ลดลงจากไตรมาส 1 ปี 2565 เล็กน้อยจากค่าครองชีพที่สูงลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น การที่บริษัทเพิ่มบริการ เช่น บริการเติมเงินเข้า E-wallet บริการเบิกถอนเงินสด และการปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้าตู้บุญเติม เป็นการประคองรายได้ไม่ให้ลดลงมากนัก ธุรกิจตู้บุญเติมที่ชะลอ ชดเชยได้ด้วยส่วนแบ่งกาไร 1 เดือนของตู้เต่าบิน ทำให้คาดการณ์กาไรสุทธิเบื้องต้นในไตรมาส 2 ปี 2565 ที่ 80 ล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลงราว 28% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากภาวะค่าครองชีพสูงอันเกิดจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้นกว่าปีก่อนมาก
อย่างไรก็ดีด้วยกำไรมีท่าทีฟื้นช้ากว่าคาดแต่น่าจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในครึ่งหลังของปี 2565 จากธุรกิจตู้บุญเติมที่ทยอยฟื้นตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการปรับเพิ่มบริการใหม่ๆ และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากตู้เต่าบินเต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565 คงราคาเป้าหมาย 22 บาท (Sum-of-the-Part) มาจาก 1) มูลค่าธุรกิจตู้เต่าบิน 16.50 บาท อิง PE 23 เท่า ซึ่งอยู่ในกรอบของกลุ่มเครื่องดื่มที่ 20-25 เท่า และ 2) มูลค่าธุรกิจตู้บุญเติม 5.50 บาท อิง DCF,WACC 7.4%, Terminal Value 0% คงคาแนะนำ “ซื้อ”