“คมนาคม” ร้องศาลปกครอง รื้อคดี “โฮปเวลล์” เหตุขั้นตอนผิดปกติ
“คมนาคม” แจงร้องขอพิพากษา “คดีโฮปเวลล์” ใหม่ เหตุพบขั้นตอนผิดปกติ ยืนยันเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม รวมทั้งยึดมั่นประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิง แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีข้อพิพาทโฮปเวลล์ว่า ในส่วนกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ดำเนินการในกรณีโฮปเวลล์ เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม รวมทั้งยึดมั่นประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และ ความผาสุกของประชาชน ทั้งนี้ เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 3 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
ทั้งนี้เมื่อช่วงปี 2562 องค์กรฝ่ายบริหาร รวมทั้งคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ทำการตรวจสอบโครงการโดยละเอียดปรากฏว่ามีความผิดปกติ ในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการเสนอโครงการ ขั้นตอนการทำสัญญา ขั้นตอนการบริหารสัญญา ขั้นตอนการบอกเลิกสัญญา รวมถึงขั้นตอนการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ เป็นต้น
ดังนั้นหากกระทรวงคมนาคม และ รฟท.ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ โดยมิได้ใช้สิทธิตามกระบวนการของกฎหมาย ก็ย่อมถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่รักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน
สำหรับกรณีที่กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ร้องขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีนี้ใหม่ ถือเป็นการใช้สิทธิตาม มาตรา 75 แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองพ.ศ. 2542 อันเนื่องมาจากเหตุที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 5/2564 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2564 ว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2545 เรื่องปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาการฟ้องคดีปกครอง เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อมาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
โดยกรณีเช่นนี้จึงถือได้ว่ามีข้อกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญอันทำให้ผลแห่งคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขดำที่ อ. 410-412/2557 คดีหมายเลขแดงที่ อ.221-223/2562 ขัดกับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น