“ดาวฟิวเจอร์” เด้ง 500 จุด รับแรงช้อนซื้อหลังร่วงหนัก

“ดาวฟิวเจอร์” ดีดกว่า 500 จุด รับแรงช้อนซื้อหลังร่วงหนัก-แนะจับตาถ้อยแถลง “พาวเวล” ถึงนโยบายการเงิน วันพุธ 22 มิ.ย.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ หลังจากดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว

โดย ณ เวลา 17.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 501 จุด หรือ 1.68% สู่ระดับ 30,370 จุด

ส่วนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวานนี้ เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) ซึ่งเป็นวันรำลึกการสิ้นสุดของการค้าทาสในอเมริกา

สำหรับดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 4.8% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดัชนี Nasdaq รูดลง 4.8% เช่นเดียวกัน ส่วนดัชนี S&P 500 ร่วงลง 5.8% ทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 และได้เข้าสู่ภาวะหมี โดยได้ปรับตัวลงมากกว่า 23% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในเดือนม.ค.

ทั้งนี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้

โดยนายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธที่ 22 มิถุนายน ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน

สำหรับก่อนการกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าว เฟดได้ส่งรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฟดส่งสัญญาณว่าจะไม่ปล่อยให้สิ่งใดก็ตามมาขัดขวางความพยายามของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ

“คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) มีความมุ่งมั่น อย่างไม่มีเงื่อนไขในการรักษาเสถียรภาพของราคา ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการรักษาตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง” เฟดระบุในรายงาน

อย่างไรก็ดีการใช้คำว่า “อย่างไม่มีเงื่อนไข” ในรายงานดังกล่าว บ่งชี้ว่าเฟดพร้อมรับความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าจากการที่เงินเฟ้อไม่สามารถควบคุมได้จนทำให้เศรษฐกิจเกิดความเสียหายในระยะยาว

ทั้งนี้ FOMC มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537

นอกจากนี้ ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปีนี้ และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในสิ้นปี 2566 และชะลอตัวสู่ระดับ 3.4% ในปี 2567 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5%

สำหรับการที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปีนี้ ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ค. และ 0.50% ในเดือนก.ย. ก่อนที่จะปรับขึ้นเพียง 0.25% ในเดือนพ.ย.และธ.ค.

Back to top button