สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 มิ.ย. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 มิ.ย. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุดในวันอังคาร (21 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ที่มีทุนจดทะเบียนสูง เช่นหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างแอปเปิลและไมโครซอฟท์ ขณะที่นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,530.25 จุด พุ่งขึ้น 641.47 จุด หรือ +2.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,764.79 จุด เพิ่มขึ้น 89.95 จุด หรือ +2.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,069.30 จุด พุ่งขึ้น 270.95 จุด หรือ + 2.51%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกขึ้นต่อในวันอังคาร (21 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์, กลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มน้ำมัน เนื่องจากนักลงทุนได้เข้าช้อนซื้อหุ้นราคาถูก หลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 408.58 จุด เพิ่มขึ้น 1.44 จุด หรือ +0.35% โดยดีดตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,964.66 จุด เพิ่มขึ้น 44.57 จุด หรือ +0.75%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,292.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.80 จุด หรือ +0.20% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,152.05 จุด เพิ่มขึ้น 30.24 จุด หรือ +0.42%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (21 มิ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ท่ามกลางภาวะอุปทานตึงตัว แม้นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,152.05 จุด เพิ่มขึ้น 30.24 จุด หรือ +0.42%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (21 มิ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน และอุปทานน้ำมันยังคงตึงตัวเนื่องจากชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 110.65  ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 114.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (21 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,838.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 18.1 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 21.768 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 9.3 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 939.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 64 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 1,862.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (21 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่เงินปอนด์ยังคงแข็งค่าหลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศขึ้นดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.15% แตะที่ระดับ 104.4330

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9662 ฟรังก์ จากระดับ 0.9689 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2919 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2994 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 136.52 เยน จากระดับ 135.12 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0534 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0502 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2277 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2238 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6975 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ  0.6952 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button