สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 มิ.ย. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 มิ.ย. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเกือบ 200 จุดในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (Defensive Stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเฮลธ์แคร์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยช่วยหนุนตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,677.36 จุด เพิ่มขึ้น 194.23 จุด หรือ +0.64%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,795.73 จุด เพิ่มขึ้น 35.84 จุด หรือ +0.95% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,232.19 จุด เพิ่มขึ้น 179.11 จุด หรือ +1.62%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) หลังจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มเหมืองแร่ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,020.45 จุด ลดลง 68.77 จุด หรือ -0.97%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) หลังผลสำรวจบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนมิ.ย. ซึ่งเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง ขณะที่การร่วงลงของราคาน้ำมันและโลหะส่งผลกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 402.40 จุด ลดลง 3.34 จุด หรือ -0.82%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,883.33 จุด ลดลง 33.30 จุด หรือ -0.56%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,912.59 จุด ลดลง 231.69 จุด หรือ -1.76% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,020.45 จุด ลดลง 68.77 จุด หรือ -0.97%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าเฟดจะเดินหน้าควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 104.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 2565
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 110.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 2565
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 8.6 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,829.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 37.9 เซนต์ หรือ 1.77% ปิดที่ 21.042 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 22.5 ดอลลาร์ หรือ 2.43% ปิดที่ 904.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 13.80 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดมรา 1,824.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าเฟดจะเดินหน้าควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ระดับ 104.4310
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0523 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0569 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2251 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2264 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6893 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6932 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3004 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2934 ดอลลาร์แคนาดา แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.95 เยน จากระดับ 136.26 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9611 ฟรังก์ จากระดับ 0.9616 ฟรังก์