SET สัปดาห์นี้ Sideways Down จับตาตัวเลข “ส่งออกไทย” วันนี้ ชู CPF-GFPT-BDMS เด่น
โนมูระฯ” ชี้ SET สัปดาห์นี้ Sideways Down จับตาตัวเลข "ส่งออกไทย" วันนี้ กลยุทธ์ลงทุนถือหุ้น 60% เน้นกลุ่ม “เปิดเมือง-บาทอ่อน-เทคฯ” ราคาลงลึก ชู CPF-GFPT-BDMS เด่น
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ (27 มิ.ย.- 1 ก.ค. 2565) จากบทวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน โดยระบุว่า สัปดาห์นี้ตลาดหุ้น“Sideways Down”โดยมีแนวต้าน 1,578-1,591 จุด ส่วนแนวรับ 1,544-1,522 จุด โดยแนะจับตาลิทัวเนียที่ประกาศปิดเส้นทางขนส่งไปยังแคว้นคาลินินกราดของรัสเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่มีการเชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่ เป็นไปตามแนวทางกลุ่ม NATO ซึ่งอาจนำไปสู่ความบาดหมางมากขึ้น
โดย Nomura ทยอยปรับคาดการณ์สู่ภาพเศรษฐกิจ Recession ในหลายประเทศต่อเนื่อง ต้นสัปดาห์ปรับลดสหรัฐฯ คาดว่าจะเข้าภาวะดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 คาด GDP ลดลง 0.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ปี 2565 โต 1.8% (เดิม 2.5%) ปี 2566 ลดลง 1.0% (เดิม โต 1.3%) และล่าสุดปรับออสเตรเลียเข้าสู่ภาวะดังกล่าวปี 2565 โดยปรับลด GDP ปี 2565 เป็น ลดลง 0.3%
โดย 1 ก.ค.2565 ติดตามคาดการณ์ CPI มิ.ย. ปี 2565 ตลาดคาดโต 8.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเร่งขึ้นจากพ.ค.2565โต 8.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ29 มิ.ย.2565 ติดตามรายงานเงินเฟ้อ Core PCE Index พ.ค.2565 ตลาดโต 0.5% เทียบเดือนก่อนหน้า (โต 4.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) จากโต 0.3% เดือนก่อนหน้า (โต 4.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) เม.ย. 2565 นอกจากนี้ติดตามการให้ความเห็นบุคคลสำคัญในภูมิภาคต่างๆ 29 – 30 มิ.ย. ประธาน ECB คุณ Lagarde 29 มิ.ย. คุณ Powell ประธาน Fed
นอกจากนี้ 27 มิ.ย. 2565 ติดตามรายงานยอดส่งออกไทยเดือนพ.ค.2565 ตลาดคาดโต 8.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจาก โต 9.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และติดตามดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.2565 ตลาดคาดโต 2.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนดีขึ้นจาก โต 0.56% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเม.ย.2565
ด้านหุ้นที่ถูกประกาศเข้า-ออก SET50-SET100 การ Rebalance จะเริ่มมีผล 1 ก.ค. หุ้นเข้า SET50 ได้แก่ BLA, JMT, JMART หุ้นออก SET50 ได้แก่COM7, RATCH, STGT ส่วนหุ้นเข้า SET100 ได้แก่ FORTH, ONEE, PSL, TIPH ส่วนหุ้นออก SET100 ได้แก่ BPP, RS, SIRI, TVO
กลยุทธ์การลงทุน : คงให้ถือหุ้น 55%-60% โดยผลการเร่งดึงสภาพคล่องออกไว เริ่มกระทบเศรษฐกิจหลายประเทศให้คาดเข้าสู่ภาวะถดถอย เพิ่มแรงกดดันตลาด คงให้กรอบเพิ่มน้ำหนัก 1,550-1,530 จุด และถัดไปคือ 1,510-1,480 จุด เน้น 1) หุ้นได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า มีเกราะป้องกันเงินเฟ้อ/เศรษฐกิจ (SAPPE, KCE, ASIAN, GFPT, CPF, BDMS, BH) 2) Value ที่เริ่มมีปัจจัยหนุนต้นทุนช่วงสั้น (TU, PTTGC, SCGP, SCC) 3) หุ้นเทคฯ/เติบโตที่มีพื้นฐานแกร่ง (JMT, JMART, BE8, BBIK, INSET, BFIT)
ส่วนหุ้น Reopening ที่ลงแรงกว่าตลาดแนะนำลงทุนเพื่อระยะกลาง-ยาว (HMPRO, ADVANC, TIDLOR, AMATA, SINGER, CRC, DTAC,CPALL, MAJOR, MAKRO, BEM, CRC)
โดยหุ้นเด่นสัปดาห์นี้: แนะนำ CPF, GFPT, BDMS โดย CPF ราคาเป้าหมาย 28.0 บาท ฐานธุรกิจคลุมหลายประเทศ รับผลบวกเต็มที่จาก Food Crisis ส่วน GFPT ราคาเป้าหมาย 20 บาท ได้ประโยชน์ราคาไก่สูงต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนข้าวโพดเริ่มแกว่งลง และBDMS ราคาเป้าหมาย 29.30 บาท ผู้ป่วยทั่วไปฟื้นดีกว่าคาด และลุ้น Upside ผู้ป่วยตะวันออกกลาง