โบรกคัด 12 หุ้นน่าลงทุนสัปดาห์นี้! ชูท็อปพิก SINGER กำไร Q2 นิวไฮ เคาะเป้า 56.25 บ.
โบรกคัด 12 หุ้นน่าลงทุนสัปดาห์นี้! ชูกลุ่มโรงไฟฟ้า-วัสดุก่อสร้าง-เครื่องดื่ม-Growth แนะ SINGER ท็อปพิก คาดกำไรไตรมาส 2/65 นิวไฮ ราคาเป้าหมาย 56.25 บ.
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ (27 มิ.ย. 65) คาดตลาดหุ้นโลก และ SET Index สัปดาห์นี้ Rebound โดยเบื้องต้นประเมินตลาดหุ้นทั่วโลกสัปดาห์นี้ฟื้นตัวต่อ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Tech และ Growth คาดฟื้นตัวเด่น หลังจากวันศุกร์หุ้นสหรัฐขึ้นแรง แต่ยังคงมุมมองเป็น Mini Bear Market Rally ปัจจัยหนุนมาจากการคลายความกังวลธนาคารกลางสำคัญทั่วโลก อาทิ สหรัฐ, ยุโรป ฯลฯ จะไม่เร่งใช้นโยบายการเงินตึงตัว
โดยล่าสุดท่าทีของคณะกรรมการ (เฟด) บางสาขาชะลอการ Hawk อาทิ นาย Jame Bullard หลังจากดัชนีชี้นําเศรษฐกิจต่างๆ อาทิ ตลาดบ้าน, PMI ภาคการผลิต ฯลฯ ส่งสัญญาณชะลอตัว หนุนความกังวลเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย Recession เพิ่มขึ้น ส่วน Catalyst ที่อาจเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้น คือ การเจรจาการค้า, ภาษีนําเข้า (tariff) ระหว่าง US-CHINA ในสัปดาห์นี้ หากเกิดขึ้นมีการผ่อนคลายภาษีเชื่อว่าจะทําให้เงินเฟ้อสหรัฐชะลอลงราว 1% จากเดิม และจะบวกต่อเศรษฐกิจจีนราว 0.4% และเป็นบวกต่อการค้าโลก และทำให้โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ลดลง โดยให้น้ำหนักถ้อยแถลง Fed Chair Powell สัปดาห์นี้
ขณะที่ประเด็นในประเทศ ประเมินดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศในกรอบ 1,550 – 1,600 จุด ซึ่งประเด็นที่
ต้องติดตามหลักๆ จะเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มธนาคารและการเงิน ติดตามแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยของธนาคารสําหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ล่วงหน้าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. ในไตรมาส 3/65 โดยธนาคารทยอยปรับตั้งรับ “ดอกเบี้ยขาขึ้น” ปรับสินเชื่อบ้านยกเลิกแคมเปญ “ดอกเบี้ยคงที่” แล้วในขณะนี้
ทั้งนี้นักวิเคราะห์ประเมินว่าทุกๆ การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จะเป็น upsides ต่อกําไรปี 66 ของ BBL, KTB, SCB ราวๆ +7%, BAY +5%, ตามด้วย TTB, KKP +1% ขณะที่ TISCO จะกระทบ -2% เพราะส่วนใหญ่ปล่อยดอกเบี้ยเช่าซื้อแบบอัตราคงที่ ทั้งนี้บล.กสิกรไทยคาดการณ์ว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในปีนี้
อีกทั้งยังติดตาม TLI เสนอขาย IPO ราคา 16 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่าเปิดจองซื้อหุ้นวันที่ 29 มิ.ย.-14 ก.ค.65 ทั้งนี้มูลค่าเสนอขายคิดเป็นไม่เกิน 34,481 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินทั้งจํานวนมูลค่าเสนอขายไม่เกิน 37,067 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (par) 1 บาทต่อหุ้น และมูลค่าตามราคาบัญชี (book value) ณ วันที่ 31 มี.ค.65 อยู่ที่ 8.10 บาทต่อหุ้น หรือ P/BV อยู่ที่ 1.98 เท่า ขณะที่มูลค่าพื้นฐานของกิจการ (Embedded Value) ของบริษัท ณ สิ้นปี 64 อยู่ที่ 13.42 บาทต่อหุ้น หรือ P/EV อยู่ที่ 1.19 เท่า โดย TLI มี
โอกาสที่จะถูกเข้าคํานวณใน SET50/SET100 แบบ FAST TRACK หลังเข้าซื้อขายในเดือน ก.ค. โดยจะเริ่มคํานวณในวันที่ T+3 นับจากวันที่ซื้อขายวันแรก
สำหรับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ติดตามเป๊ปซี่เดินหน้าปรับขึ้นราคา “ขายส่ง-ขายปลีก” 1-2 บาท ต่อขวด/กระป๋อง ราคาขายส่งปรับขึ้นประมาณ 16-24 บาทต่อลัง มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้ หลังจากมีการแจ้งปรับราคาให้กับร้านค้าตัวแทนจําหน่ายตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. แล้ว โดยบริษัทได้ทําแคมเปญให้ส่วนลดยี่ปั้วตัวแทนจําหน่าย ในราคาเดิมตลอดเดือนนี้ เพื่อให้ราคาขายปลีกคงราคาเดิมต่อไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ มองหากเป๊ปซี่มีการปรับราคาจริงอาจเห็นโคคาโคล่าปรับตาม เป็นบวกกับ HTC ที่เป็นผู้ผลิตและตัวแทนจําหน่ายโค้กในภาคใต้
นอกจากนี้ กลุ่มท่องเที่ยว โดยติดดตามข่าวจีนเริ่มเปิดเที่ยวบินไทย-จีน เบื้องต้น 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยเริ่มจากเปิดให้ประชาชนในกลุ่มนักธุรกิจ นักเรียนและนักศึกษาก่อน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลจีนได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศแล้ว จึงถือเป็นสัญญาณดีของในการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว มองอาจเป็น sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวและขนส่ง โดยเฉพาะ AOT, AAV, SPA, EKH
ส่วนหุ้นกลุ่ม Anti-commodities โดยติดตามทิศทางราคานํ้ามันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ประบตัวลงกว่า 10-40% จากจุดสูงสุดในไตรมาส 1/2565 จะหนุน sentiment เชิงบวกต่อกลุ่ม Anti-commodities อาทิ BGRIM, GPSC, GULF, CBG, SCGP, RBF และ BJC
ดังนั้นธีมการลงทุนในสัปดาห์นี้แนะนําลงทุนใน กลุ่ม Anti Commodities ประเมินยังได้ประโยชน์จากทิศทางราคาพลังงานปรับลง อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ BGRIM, GPSC, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ DCC, TOA, กลุ่มเครื่องดื่ม CBG, OSP, SAPPE และกลุ่ม Growth อาทิ JMT, JMART, SINGER, BE8, BBIK
ทั้งนี้ Top pick ยกให้ SINGER แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 56.25 บาท โดยคาดว่า SINGER จะรายงานกําไรที่สูงสุดทําสถิติใหม่อีกครั้งในไตรมาส 2/2565 เนื่องจาก รายได้จากการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น ไตรมาส 2 ของทุกปีมักเป็นช่วงไฮซีซั่นของการขายเครื่องปรับอากาศและเครื่องทําความเย็น ปัจจัยหนุนราคาหุ้นระยะสั้น มี พัฒนาการเชิงบวกจาก 1.) JV ขายแผง solar cell 2.) ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าออนไลน์ที่จับกับ Kerry XL 3.) ความคืบหน้า การ IPO บริษัทลูก SG Capital ที่ยื่น filing เดือน ก.ค.- ส.ค. 65