THCOM ย้ำปีนี้กำไรโต ลุยดาวเทียม LEO ต่อยอดธุรกิจ-เจาะตลาดอินเดียเต็มสูบ
THCOM ย้ำปีนี้กำไรโต ลุยดาวเทียม LEO ต่อยอดธุรกิจ-เจาะตลาดอินเดียเต็มสูบ เล็งผุดดาวเทียมเพิ่ม 1 ดวง รองรับแผนธุรกิจในอนาคต แย้มรายได้บริการควบคุมดาวเทียมไทยคม 4 และ 6 คาดเจรจาแล้วเสร็จภายใน 2-3 เดือน
นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศทาง Kaohoon TV Online และสถานีวิทยุกระจายเสียง ขส.ทบ. FM 102.0 MHz ว่า หลังจากที่ THCOM ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่มีหลายมิติที่บริษัทพัฒนาจากอดีตดำเนินธุรกิจดาวเทียมอย่างเดียว
โดยนับจากนี้ภาพธุรกิจของบริษัทจากประสบการณ์และศักยภาพที่มีจะนำมาต่อยอดและสร้างโอกาสทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลากหลายมิติ ได้แก่ ไม่ว่าจะด้านดาวเทียมที่ยังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจเดิมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจดาวเทียมมีอะไรใหม่ๆเข้ามา ทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพ ดังนั้นธุรกิจหลักดาวเทียมบริษัทยังเดินหน้าทำต่อเนื่องและมองหาดาวเทียมดวงใหม่เพื่อเข้ามาเสริมศักยภาพ
ทั้งนี้ในอดีตดบริษัทดำเนินธุรกิจแค่เช่าข่องสัญญาณ แต่ในอนาคตบริษัทจะพัฒนาการบริการในแบบครบวงจร อย่างธุรกิจบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบนเรือที่ได้ริเริ่มมาแล้ว และขณะนี้ได้พัฒนาให้บริการไอที,ความปลอดภัย และบริการ WIFI ซึ่งจะสร้างรายได้เสริมให้กับบริษัท และปัจจุบันในโลกธุรกิจดาวเทียมมีหลายประเภท โดยหนึ่งในนั้นคือ กลุ่มดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำ หรือ LEO และมีประโยชน์มากมายจากดาวเทียมประเภทนี้
สำหรับกลุ่มดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำ หรือ LEO ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งของ THCOM โดยบริษัทมองหาและจะร่วมเป็นพันมิตรกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจดาวเทียม LEO โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการ LEO ทั่วโลก อาทิ สตาร์ลิงค์ ,วันเว็บ เป็นต้น
โดยล่าสุดบริษัทได้จับมือร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท โกลบอลสตาร์ (Globalstar, Inc.) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีระบบดาวเทียมวงโคจรต่ำ หรือ LEO Satellite (Low Earth Orbit Satellite) ระดับโลก โดยเป็นดาวเทียมดำเนินลักษณะ IoT คือเป็นระบบติดตามตัว สามารถรู้พิกัด ซึ่งตรงนี้ถือเป็นโอกาสให้ประเทศไทยและในภูมิภาคนี้ ตัวเอย่างเช่น บริษัทได้นำอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล และสามารถพัฒนา IoT Solutions อื่น ๆ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมทางทะเลได้อีกมากในประเทศไทย
ทั้งนี้การจับมือพันธมติดังกล่าวจะช่วยต่อยอดให้ธุรกิจ และขยายตลาดดังนั้นการที่บริษัทมีความเชียวชาญ และเข้าใจเรื่องแพตฟอร์มเพื่อรองรับ แทนที่จะบริษัทจะดำเนินการเองก็ไปจับมือพันมิตร นอกจากการจับมือพันธมิตรเราก็ยังขยายตลาดเพิ่มเติม เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ โดยรายได้ต่างประเทศ และในประเทศสัดส่วนละ 50%
โดยประเทศเป้าหมายคือประเทศอินเดีย เนื่องจากประชากรราว 1,400 ล้านคน เนื่องจากประเทศใหญ่การใช้ดาวเทียวเสริมคาดว่ามีความต้องการสูงมาก แต่ความท้าทายว่าจะทำอย่างไรให้ทำธุรกิตสำเร็จ เนืองจากเขามีความภูมิใจในประแทศ บริษัททำการตลาดมาในอินเดียมาทำ 15 ปีแล้วและลูกค้าเป็นรัฐวิสาหกิจเป็นลูกค้าบริษัท โดยล่าสุดได้เซ็นสัญญากับขายช่องสัญญาณดาวเทียม “กลุ่มฮินดูจากรุ๊ป” เป็นผู้ประกอบธุรกิจครอบคลุมทั้งในด้านยานยนต์ บริการทางการเงิน น้ำมัน และก๊าซ รวมถึงธุรกิจอื่น และโทรคมนาคม ดังนั้นมองว่าตลาดอินเดียจะเป็นอนาคตของไทยคมและสร้างรายได้สูง
ทั้งนี้จากแผนดังกล่าวความต้องการดาวเทียมสูง ในปัจจุบันต้องมีดาวเทียมบริษัทสามารถรองรับได้มากน้อยขนาดไหน คือปัจจุบันต้องยอมรับดาวเทียมไม่เพียงพอ ดังนั้นบริษัทจำเป็นต้องมีเพิ่มอีก 1 ดวง แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกระทรวงคาดว่าครึ่งปีหลัง 2565 จะออกมา ดังนั้นหากธุรกิจในอินเดียเป็นไปตามคาดหมายคาดว่าดาวเทียม 1 ดวงไม่เพียงพอ
สำหรับการรุกธุรกิจดาวเทียมโคจรต่ำของ THCOM จะไม่ใช่การพัฒนาระบบดาวเทียมโคจรต่ำ เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก แต่บริษัทจะดำเนินธุรกิจในลักษณะการจับมือกับพันธมิตรที่พัฒนาดาวเทียมเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศอินเดีย ออสเตรเลีย ( เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) เป็นหลัก
ส่วนเป้าหมายผลงานปี 2565 จากแผนธุรกิจดังกล่าว บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการทำกำไรอย่างต่อเนื่องจากปี 2564 มีกำไรสุทธิ 144 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้ากรณีดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 ได้ส่งมอบให้กระทรวงเสร็จสินไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2564 ให้กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT นำไปบริหารต่อ อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทยังมีส่วนเข้าไปช่วยควบคุมชัวคราวในการบริหารจัดการ คือ ในส่วนการควบคุมดาวเทียมให้อยู่ในวงโคจร และขายช่องสัญญาณ
ในส่วนการควบคุมดาวเทียม ซึ่งตรงนี้มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นและได้แจ้งทางกระทรวงไปเบื้องต้น และในอนาคตมีโอกาสที่ทางกระทวง และ NT จะให้ THCOM เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเนื่องจากการดำเนินงานมีความเสี่ยง โดยเฉพาะด้านประกันภัยแต่เนื่องจากบริษัทประกันภัยมีหลักว่าการคุ้มครองจะเกิดขึ้นและต้องเป็นบริษัทที่มีความเชียวชาญและการให้บริการอย่าง THCOM เท่านั้น ขณะที่การการบริการจัดการตลาดของ THCOM ยังมีการเช่าช่องสัญญาณให้บริการลูกค้าไทยคม 4 และ 6 ของบริษัทอยู่ สำหรับในส่วนของรายได้ในการเข้าไปควบคุมช่วย NT ดังกล่าวในส่วนนี้คาดจะมีการเจรจาส่วนแบ่งรายได้ภายใน 2-3 เดือนแล้วเสร็จ