GTG นำร่อง “เยอรมัน” เป็นเกตเวย์ คลอดสินค้า”กัญชา-กัญชง”ตั้งเป้าครึ่งปีหลังบุกตลาดยุโรป
GTG นำร่องเยอรมันเป็นเกตเวย์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ”กัญชา-กัญชง” พร้อมตั้งเป้าครึ่งหลังปี 65 บุกตลาดกลุ่มประเทศยุโรปเต็มสูบ
นายกฤษณ์ ธีรเกาศัลย์ กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป หรือ GTG เปิดเผยว่า หลังจากเดินหน้าสร้างการรับรู้และทำการตลาดกัญชงในประเทศไทย นำโดยการกิจกรรมโรดโชว์ทั่วประเทศกว่าหลากหลายงานตลอดตั้งแต่ต้นปี พร้อมเปิดตัวสินค้าที่ผลิตจากสารสกัด CBD Full Spectrum 100 ,300 และ 500 mg. รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทั้งเพื่อการอุปโภคและบริโภค ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้อง อย่าง Tropical Terpenes น้ำมันหอมระเหยอเนกประสงค์ที่สกัดจากพืชและผลไม้ GTG Bath Bomb ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณสำหรับการแช่หรือการอาบน้ำในอ่าง และ CBD Everyday Balm บาล์มอเนกประสงค์
โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มบิ้วตี้โปรดักส์หรือสินค้ากลุ่มความงานและสุขภาพ รวมไปถึงกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 10 รายการ ภายใต้แบรนด์ของ GTG เองและภายใต้ความร่วมมือร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแต่ละกลุ่มโปรดักส์ และต้องยื่นขอขึ้นทะเบียน อย.อย่างถูกต้องทุกตัว โดยสินค้าที่จะออกสู่ตลาดทั้งหมดจะใช้ CBD Full Spectrum ที่มีสาร THC น้อยกว่า 0.2 % ถูกต้องตามกฎหมาย และมีสาร CBD มากถึง 15.8 % โดยสกัดมาจากสายพันธุ์กัญชงภายใต้ชื่อ “RAKSA” (รักษา) ซึ่งเป็นสายพันธุ์เฉพาะของบริษัทเอง
โดยการทำตลาดในประเทศมีทิศทางที่สดใสขึ้นภายหลังจากมีการปลดล็อกกัญชา เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้กัญชง กัญชาเป็นที่ยอมรับของประชาชนและผู้บริโภคและส่งผลให้มีดีมานด์เพิ่มมากขึ้นในตลาด ทั้งในกลุ่มการแพทย์ซึ่งเติบโตดีมาตั้งแต่ปลดล็อกเพื่อการแพทย์เมื่อปลายปี 2564 ขยายไปยังกลุ่ม อาหาร เครื่องดื่ม กลุ่มความงามและสุขภาพ ผนวกกับการเปิดประเทศส่งผลให้ปริมาณนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีจำนวน 7-10 ล้านคนในปีนี้ (ข้อมูลจากสภาพัฒน์) ซึ่งส่งผลดีให้ GTG สามารถเดินหน้าทำตลาด สารสกัด CBD ช่อ ดอก ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม สปา และร้านอาหาร
ทั้งนี้การเดินหน้าทำการตลาดในประเทศถือเป็นเป้าหมายรองของ GTG ซึ่งเป้าหมายหลักคือการส่งออกสารสกัดและต้นกัญชง กัญชา ไปยังตลาดยุโรปซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีการเปิดเสรีกัญชง กัญชา ทางการแพทย์ โดยจะโฟกัสไปยังประเทศเยอรมันนี ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการสูงและมีโอกาสเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยใช้ประเทศเยอรมันนีเป็นเกตเวย์กระจายสินค้าไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป อาทิ สเปน กรีซ เป็นต้น ซึ่งอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตส่งออกและขอรับรองมาตราฐานการปลูกและการเก็บเกี่ยวอย่าง GACP (Good Agricultural and Collection Practice) ที่คาดว่าจะได้รับภายในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ส่งผลให้ GTG เป็นเจ้าแรกที่ได้รับมาตรฐานดังกล่าว อีกทั้ง GTG ยังเดินหน้าขอรับรองมาตราฐาน EUGMP สำหรับการการแพคกิ้ง โดยจะดำเนินการขอรับรองภายในควอเตอร์ 4 ของปีนี้ และคาดว่าจะสามารถส่งออกได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
“GTG มีเป้าหมายออกไปตีตลาดยุโรป โดยได้ดำเนินการขอรับรองขอมาตรฐาน GACP ไปแล้วและจะเดินหน้าขอรับรองมาตรฐาน EUGMP ต่อ ซึ่งเราจะเป็นรายแรกของเอเชีย และยังมีแผนนำสารสกัด CBD Full Spectrum ไปออกงานโรดโชว์ในกลุ่มประเทศยุโรป อาทิ งานนิทรรศการกัญชง กัญชาที่ประเทศเยอรมันนี เป็นต้น กลุ่มยุโรปนับเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีโอกาสการเติบโตอย่างมาก แต่การจะเข้าไปเจาะตลาดในกลุ่มประเทศเหล่านี้ได้สินค้าจะต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ซึ่ง CBD Full Spectrum ของ GTG มี THC น้อยกว่า0.2% เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ไม่จัดอยู่ในสารเสพติดประเภทที่ 5 และเมื่อเราได้รับมาตรฐาน GACP จะทำให้ GTG เป็นรายแรกของเอเชียที่ออกไปตีตลาดยุโรปได้” นายกฤษณ์ กล่าว
ทั้งนี้นายกฤษณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การจะผลักดันให้ กัญชง และกัญชา เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างยั่งยืนและเป็นการสร้างบรรทัดฐานในการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรและสมุนไพรไทย คือการมุ่งเน้นส่งเสริม คุณภาพและมาตรฐาน ของผลิตภัณฑ์จากกัญชง และกัญชา เพื่อนำมาซึ่งมูลค่าที่สูงขึ้น