KUN ยอดขายบ้าน 5 เดือน กวาด 640 ลบ. เป้าหมายทั้งปีนี้ 1.7 พันล้าน

KUN เผย 5 เดือนยอดขาย แตะ 640 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีนี้ 1.7 พันล้านบาท มองครึ่งปีหลังอสังหาฯฟื้น เตรียมเปิดโครงการคุณาลัย นาวาร่า มูลค่า 3,500 ล้านบาท


นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า จากการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด “คุณาลัย สร้างพื้นที่ สร้างความสุข” ซึ่งบริษัทได้นำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ในการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรที่มุ่งตอบโจทย์ความสุขของการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ (New Normal Lifestyle)

โดยเน้นการเพิ่มพื้นที่ความเป็นส่วนตัวให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัว เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับหลากหลายสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเปลี่ยนไป ภายใต้ความรื่นรมย์ไปกับบรรยากาศแสนสบายที่มาพร้อมสุขภาพที่ดีขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแนวคิดบ้านประหยัดพลังงานด้วยวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงพลังงานสะอาด อาทิ Solar Roof Top ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ

ส่วนในด้านยอดขาย (Presale) โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-พฤษภาคม) ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมียอดขายสะสมรวมแล้วที่ระดับ 640 ล้านบาท เติบโตประมาณ 16% เมื่อเทียบกับยอดขายสะสมในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 550 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 37.6% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปี 2565 ที่ 1,700 ล้านบาท

โดยมีสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิค-19 ได้เปลี่ยนแปลงแนวความคิดในการเลือกซื้อบ้านและพฤติกรรมการใช้ชีวิตไปมาก ทำให้เกิดวิถีชีวิตแบบใหม่ในการใช้สอยพื้นที่ภายในบ้านที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น ทำงานจากที่บ้าน, การค้าขายออนไลน์ที่มีมากขึ้น ทำให้ลูกค้ามองหาที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมจากภาครัฐ ได้แก่ การขยายระยะเวลามาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เหลือร้อยละ 0.01 รวมถึง ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตรการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) โดยกำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เป็นร้อยละ 100 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จึงทำให้ลูกค้ามีโอกาสในการขอสินเชื่อได้มากขึ้นกว่าเดิม

อีกทั้ง จากสถานการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคาบ้านมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทำให้ลูกค้าที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยรีบตัดสินใจซื้อบ้านก่อนที่ราคาบ้านจะปรับขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิด Grand Opening โครงการคุณาลัย พาร์โก้ บ้านเดี่ยว 96 ยูนิต ในระดับราคาเริ่มต้นที่ 4.89 ล้านบาท ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ โมเดิร์น อิตาเลียน แห่งแรกในโซนบางบัวทอง ภายใต้คอนเซ็ปต์หลักของโครงการ คือครอบครัวที่อยู่ร่วมกันหลากหลายเจนเนอเรชั่นในบ้านหลังเดียว  โดยปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 15% และเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในโครงการที่จะผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ของผู้อยู่อาศัยได้ครบทุกมิติ

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KUN ยังได้กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในช่วงครึ่งปีหลังว่าแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวดีขึ้น ด้วยสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโควิค-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับการเปิดประเทศ

รวมถึงการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่เริ่มกลับมาเกือบสู่ภาวะปกติ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้มั่นใจว่า ทิศทางในเชิงบวกจะสามารถทำผลักดันให้ยอดขายและรายได้ของ KUN เป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตที่บริษัทตั้งไว้ที่คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 10-15 % จากปีก่อนที่มีรายได้รวมระดับ 1,000 ล้านบาท โดยในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการคุณาลัย นาวาร่า มูลค่าโครงการประมาณ 3,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งในโซนทิศใต้ บริเวณถนนพระราม 2 มีรูปแบบโครงการเป็นบ้านเดี่ยว

สำหรับการเปิดประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวได้รับประโยชน์ ทั้งธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจสายการบิน, ธุรกิจโรงพยาบาลที่รักษาชาวต่างชาติ, ธุรกิจร้านอาหาร ตลอดจนธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้แรงงานที่อยู่ในภาคการท่องเที่ยวมีรายได้มากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นตามด้วย และจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวจะทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวสูง ประเภทอาคารชุดจะค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว รวมถึงอสังหาริมทรัพย์แนวราบก็จะได้รับอานิสงค์จากการจ้างงานจากภาคการท่องเที่ยวที่มากขึ้น ทำให้ลูกค้าที่เป็นดีมานด์ที่แท้จริงจะกลับมาซื้อบ้านเพิ่มขึ้น

ขณะที่ภาพรวมของกำลังซื้อในปี 2565 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นทั้งจากสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทั้งจากความกังวลในราคาบ้านที่อาจจะปรับเพิ่มขึ้นและจากการกระตุ้นในมาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่สิ้นสุดในธันวาคม 2565 จะเป็นการเร่งการตัดสินใจของลูกค้าในการซื้อบ้านในปีนี้ ทั้งนี้ ปัจจุบันกำลังซื้อของผู้บริโภคยังอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา

ส่วนภาพรวมการแข่งขันในขณะนี้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยจะเห็นได้จากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เริ่มเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งแนวราบ และแนวสูงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ครึ่งปีหลังจะเห็นการแข่งขันที่กลับมาดุเดือด ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อผู้บริโภคที่มีโอกาสการเลือกที่อยู่อาศัยมากขึ้น จากแคมเปญต่างๆ ของผู้ประกอบการที่จะดึงดูดความน่าสนใจให้เข้ามาซื้อโครงการ

อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันสิ่งที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ จะต้องเจอ คือต้นทุนที่ดิน ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น โครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่จะพัฒนาใหม่ จะมีราคาขายบ้านในโครงการที่สูงขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น  ทั้งจากต้นทุนที่ดินและต้นทุนค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น สำหรับการแข่งขันในอสังหาริมทรัพย์แนวราบ จะอยู่ที่การกำหนดรูปแบบโครงการราคาขาย ที่จะตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า

โดยจากปัจจัยที่กล่าวในข้างต้น ยอมรับว่า KUN มีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นในโซนเดียวกัน เนื่องจากบริษัทมีที่ดินในต้นทุนเดิม ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่อยู่ ระหว่างรอการพัฒนา โซนบางบัวทอง 90 ไร่ ซึ่งสามารถพัฒนาได้นานถึง 3-5 ปี จึงทำให้บริษัทได้เปรียบรายอื่นๆ ในแง่ต้นทุนการพัฒนาในแต่ละโครงการของ KUN โดยเฉพาะในโซนบางบัวทอง ที่บริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบโซนบางบัวทอง พร้อมทั้งจะมุ่งมั่นที่จะใช้โมเดลธุรกิจตามแนวความคิดการสร้างเมือง ไปยังอีก 3 ทิศรอบกรุงเทพมหานครฯ ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของบริษัทที่วางไว้

Back to top button