“กพช.” ไฟเขียว PTT จัดหา LNG เพิ่มอีก 1 ล้านตัน/ปี
"กพช." ไฟเขียว PTT จัดหา LNG สัญญาระยะยาวอีก 1 ล้านตัน/ปี เพิ่มเติมจากสัญญาระยะยาวที่มีการลงนามแล้ว 5.2 ล้านตัน/ปี หวังเสริมความมั่นคงพลังงาน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สัญญาระยะยาวปริมาณ 1 ล้านตัน/ปี เพิ่มเติมจากสัญญาระยะยาวที่มีการลงนามแล้ว 5.2 ล้านตัน/ปี
พร้อมทั้งรับทราบในรายละเอียดสาระสำคัญการจัดหา LNG ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบจะไปดำเนินการ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ เร่งดำเนินการต่อไป เพื่อจัดหาก๊าชธรรมชาติให้เพียงพอในระยะยาว และมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้กำกับดูแลให้ราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กพช. กำหนด และให้ PTT นำสัญญาซื้อขาย LNG สัญญาระยะยาวเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานในที่ประชุม กล่าวว่า ในการจัดหาก๊าซ LNG มีหลักการและเหตุผลในการประเมินไว้ล่วงหน้าทั้งความเสี่ยงของราคา ปริมาณการนำเข้า คาดการณ์ว่าในระยะยาวอาจจะมีผลกระทบกับประเทศไทย ดังนั้นการตกลงจัดหาซื้อก๊าซไว้ล่วงหน้าจะเป็นประโยชน์กับประเทศในอนาคต ซึ่งข้อเสนอการจัดหาก๊าซ LNG ของ PTT เป็นการลดความเสี่ยงในการจัดหา LNG ในอนาคต และเป็นส่วนสำคัญที่จะเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ฝากให้ กกพ. ได้ติดตามผลกระทบต่อราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานในประเทศในอนาคต เพราะการนำเข้าก๊าซจะเกิดขึ้นในปี 69 ในขณะที่ความผันผวนด้านราคาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอาจจะสิ้นสุดลงแล้ว หรืออาจจะมีต่อไปก็ได้ ดังนั้นจะเสี่ยงไม่ได้ โดยต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ การแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมทั้งขอให้ กกพ. กำกับดูแลการจัดหา LNG ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี
นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ด้านพลังงานขณะนี้ว่า เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยคำนึงถึงหลักการ ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงต่างๆ ทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการ กพช. ก็ดำเนินงานด้วยดีมาโดยตลอด
ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญคือความเข้าใจ ความไว้วางใจ โดยขอให้ทุกคนได้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางสื่อต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การทำความเข้าใจ มีเหตุผลในการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมย้ำว่าสิ่งสำคัญในวันนี้คือการขับเคลื่อนไปสู่การประหยัดพลังงานที่ต้องมีรูปแบบการประหยัดพลังงานที่จะเกิดผลตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง และส่งผลกับประชาชน ซึ่งประชาชนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมช่วยกันประหยัดพลังงานด้วย