B ควัก 300 ลบ. ซื้อหุ้น “เดอะ เมกะวัตต์” เพิ่ม 11% ดันถือแตะ 47%
B ควัก 300 ลบ. ซื้อหุ้น “เดอะ เมกะวัตต์” เพิ่มอีก 3 ล้านหุ้น สัดส่วน 10.92% ดันถือแตะ 46.59% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจาร เดินหน้าลุยพลังงานทดแทนเต็มสูบ
บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 11/2563 ซึ่งประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติ ให้บริษัท ฯ เข้าร่วมลงทุนใน บริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด (“เมกะวัตต์”) จำนวน 1.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงินลงทุน 125 ล้าน บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5 ของทุนจดทะเบียนเป้าหมายของ เมกะวัตต์ตามที่ได้จดทะเบียนมติพิเศษเพิ่มทุนจำนวน 2,500 ล้านบาท และคิดเป็นสัดส่วนการลงทุนทั้งหมดของบริษัท ฯ ในเมกะวัตต์ ร้อยละ 12.49 ของทุนจดทะเบียนของเมกะวัตต์จำนวน 1,001 ล้านบาท (ทุนจดทะเบียนของเมกะวัตต์ภายหลังการ ลงทุนของบริษัท ฯ โดยบริษัท ฯ ได้ชำระเงินลงทุนจำนวน 100 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 และ ชำระเพิ่มเติมอีก 25 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 รวมชำระเงินลงทุนครบถ้วนจำนวน 125 ล้านบาท แล้ว
ต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2560 มีมติอนุมัติ ลงทุนเพิ่มเติมใน เมกะวัตต์ อีก 1.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงินลงทุน 125 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5 ของทุน จดทะเบียนเป้าหมายของเมกะวัตต์ตามที่ได้จดทะเบียนมติพิเศษเพิ่มทุนจำนวน 2,500 ล้านบาท และ คิดเป็นสัดส่วนการลงทุน ทั้งหมดของบริษัท ฯ ในเมกะวัตต์ ร้อยละ 22.20 ของทุนจดทะเบียนของเมกะวัตต์จำนวน 1,126 ล้าน บาท (ทุนจดทะเบียนของ เมกะวัตต์ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมของบริษัท ฯ) โดยเป็นการลงทุนเกินสัดส่วนจากสัดส่วนเดิมที่ได้รับการจัดสรร ร้อยละ 9.53 (จากสัดส่วนเดิมร้อยละ 12.49 เป็นสัดส่วนใหม่ร้อยละ 22.20) และบริษัทได้ชำระเงินลงทุนครบจำนวน 125 ล้านบาทแล้ว
ต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท ฯ ลงทุนใน เมกะวัตต์ เพิ่มเติมอีก จำนวน 3.5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงินลงทุน 350 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนการลงทุนในเมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 49.25 ของจำนวนทุนจดทะเบียนของเมกะวัตต์ จำนวน 17.26 ล้านบาท (ทุนจดทะเบียนของ เมกะวัตต์ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมของบริษัท ฯ) ซึ่งเป็นการลงทุนเกินสัดส่วนจากสัดส่วนเดิมที่ได้รับการจัดสรร ร้อยละ 12.91 (จากสัดส่วนเดิมร้อยละ 36.34 เป็นสัดส่วนใหม่ร้อยละ 49.25) และบริษัทฯ ได้ชำระเงินลงทุน จำนวน 350,000,000 บาท ครบแล้ว
ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้ บริษัท ฯ ลงทุนในเมกะวัตต์ เพิ่มเติมอีก จำนวน 3 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงินลงทุน 300 ล้านบาทบาท ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขว่าบริษัท ฯ ต้องได้รับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวนี้จากเมกะวัตต์ และได้รับความเห็นชอบจากผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ของเมกะวัตต์ ตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น ณ ปัจจุบัน บริษัท ฯ ได้ลงทุนในเมกะวัตต์ รวมจำนวน 11.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงินลงทุน 1,150 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 46 ของทุนจดทะเบียนเป้าหมายของเมกะวัตต์ตามที่ได้จดทะเบียนมติพิเศษเพิ่มทุน จำนวน 2,500 ล้านบาท และนับจนถึงปัจจุบัน บริษัท ฯ ได้ชำระเงินลงทุนไปแล้ว 850 ล้านบาท
สำหรับการทำรายการดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการขยายการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงและเติบโตในอนาคต เนื่องจากธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงาน แสงอาทิตย์จะมีการซื้อขายในรูปแบบของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ระยะยาวประมาณ 25-30 ปี จึงเป็นการการันตีรายได้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
ในปัจจุบัน บริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด มีการลงทุนในโครงการต่างๆ อาทิเช่น โครงการ โซลาร์ฟาร์มของ บริษัท สยามโซลาร์ เจนเนอเรชั่น จำกัด (SSG) ซึ่งดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ รวม 27 เมกะวัตต์ โครงการโซลาร์ฟาร์มของบริษัท จี เอ พาวเวอร์ ไพรเวท ลิมิเตด ซึ่งดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทีเวียดนาม รวม 29 เมกะวัตต์
สำหรับ “เมกะวัตต์” มีการลงทุนในบริษัท Convalt Mandalay Solar PTE Ltd ที่เป็นเจ้าของ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ โซลาร์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 360 MWp ตั้งอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า มีระยะเวลาสัญญา 30 ปี นับจากวันที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้
นอกจากนั้น เมกะวัตต์ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ อาทิเช่น โครงการบริหารจัดการขยะ เพื่อเปลี่ยนขยะเป็น ผลิตภัณฑ์อื่น และ เชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้า การขุดคริปโตเคอเรนซี จากการใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน และ โครงการโซลาร์รูฟท็อปในประเทศ