สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ก.ค.2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ก.ค.2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (13 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,772.79 จุด ลดลง 208.54 จุด หรือ -0.67%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,801.78 จุด ลดลง 17.02 จุด หรือ -0.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,247.58 จุด ลดลง 17.15 จุด หรือ -0.15%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (13 ก.ค.) เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเกินคาดของสหรัฐทำให้มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงขึ้น และยังสร้างแรงกดดันต่อธนาคารกลางยุโรป (ECB) ด้วย หลังจากยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 1 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 412.81 จุด ลดลง 4.23 จุด หรือ -1.01%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,000.24 จุด ลดลง 43.96 จุด หรือ -0.73%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,756.32 จุด ลดลง 149.16 จุด หรือ  -1.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,156.37 จุด ลดลง 53.49 จุด หรือ -0.74%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพุธ (13 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเกินคาดซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ขยายตัวเกินคาดในอังกฤษนั้น ไม่สามารถคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,156.37 จุด ลดลง 53.49 จุด หรือ -0.74%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (13 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงช้อนซื้อหลังจากราคาน้ำมันทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 96.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 99.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 10 ดอลลาร์ในวันพุธ (13 ก.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในเดือนมิ.ย.

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 10.7 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,735.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 23.6 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 19.194 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 9.7 ดอลลาร์ หรือ 1.17% ปิดที่ 837.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 44.20 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 1,971.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (13 ก.ค.) หลังจากนักลงทุนซึมซับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่สูงกว่าคาดในเดือนมิ.ย. ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขานรับรายงานที่ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษฟื้นตัวขึ้นในเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.09% แตะที่ระดับ 107.9710

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0063 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0047 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1903 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1898 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6767 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6766 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9793 ฟรังก์ จากระดับ 0.9817 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2970 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3008 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 137.33 เยน จากระดับ 136.76 เยน

Back to top button