IMF หั่นเป้า “จีดีพี” สหรัฐปีนี้เหลือ 2.3% หลังการใช้จ่ายผู้บริโภคลด-เสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย

IMF หั่นคาดการณ์ GDP ของสหรัฐฯ ปี 65 จาก 2.9% เหลือ 2.3% หลังการใช้จ่ายผู้บริโภคลดลงและเสี่ยงต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอย และได้ลดประมาณการณ์ GDP ของปี 66 จาก 1.7% เหลือ 1%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปี 65 ลงเหลือ 2.3% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.9% หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง ขณะเดียวกัน IMF เตือนว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับความท้าทายในการหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย

อีกทั้ง IMF ยังได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2566 ลงเหลือ 1% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 1.7% โดยการปรับลดคาดการณ์ GDP มีขึ้น หลังจาก IMF ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐ เพื่อประเมินนโยบายเศรษฐกิจประจำปีของสหรัฐในวันพุธ (13 ก.ค.65)

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การทบทวนตัวเลข GDP ครั้งล่าสุดของสหรัฐนั้น มีขึ้นหลังจากสหรัฐปรับลดประมาณการตัวเลข GDP ไตรมาส 1 โดยระบุว่า GDP หดตัว 1.6% จากเดิมที่รายงานว่าหดตัวเพียง 1.4% และ 1.5% ในตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ตามลำดับ

นอกจากนี้ สหรัฐยังเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลงในเดือนพ.ค. โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีก ลดลง 0.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.2%

ทั้งนี้ IMF ยังระบุถึงความท้าทายเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ขณะเดียวกันคณะบริหารของ IMF ระบุในแถลงการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นวงกว้างกำลังก่อให้เกิดความเสี่ยงในเชิงระบบต่อเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐและทั่วโลก นโยบายการเงินที่ดีนั้น ควรจะให้ความสำคัญกับการชะลอตัวเลขค่าแรงและเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอยนี่เป็นภารกิจที่ต้องใช้กลยุทธ์

อย่างไรก็ดี IMF คาดว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.6% ภายในไตรมาส 4/65 และลดลงสู่ระดับ 1.9% ภายในไตรมาส 4/66

“การคุมเข้มนโยบายการเงินจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวช้าลง แต่ก็คาดว่าสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้” IMF ระบุในแถลงการณ์

Back to top button