หุ้นปาล์มขาลง! เซ่น “ผลสด” ราคาทรุด-อินโดหวนส่งออก

หุ้นกลุ่มปาล์มทรุด เซ่นผลปาล์มสดราคาลงหนัก อินโดนีเซียหวนกลับส่งออกปกติ พ่วงกระทรวงพาณิชย์ปรับลดราคาน้ำมันปาล์มขวดลง 4-5 บาท หลังต้นทุนการผลิตปรับลดลง ฟากราคาหุ้น VPO ร่วงหนักสุด 37%


ราคาผลปาล์มสดปรับตัวลงต่อเนื่อง ล่าสุดจากข้อมูลของกรมการค้าภายในปาล์มทะลายโรงงานรับซื้อจากแหล่งผลิตสำคัญ 3 จังหวัด  ณ วันที่ 12 ก.ค. 65 ราคาอยู่ที่ 6.50-7.40 บาทต่อกิโลกรัม หลังจากต้นเดือน พ.ค. 65 ราคาเคยแพงที่สุดเป็นประวัติการณ์กว่าในรอบ 60 ปีที่มีการปลูกปาล์มน้ำมันในประเทศไทยโดยขึ้นไปแตะ 10.80-12.10 บาทต่อกิโลกรัม

สำหรับราคาปาล์มดิบค่อยๆปรับตัวลงต่อเนื่องจากช่วงปลายเดือน พ.ค. 65 ต่อเนื่องมาเดือนมิ.ย. 65 กระทั้งถึงปัจจุบันทำให้ราคาผลปาล์มดิบปรับลดไปแล้วราว 4-5 บาทต่อกิโลกรัมนึ่งอาจเป็นเพราะหลังจากประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนิเซีย ได้ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มแล้วซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 65 เป็นต้นไป

สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำมันในการปรุงอาหารภายในประเทศ จนทำให้ราคาน้ำมันปาล์มภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และทำให้รัฐบาลต้องออกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มเมื่อวันที่ 28 เม.ย.65 ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้เร่งรัดการปรับลดราคาน้ำมันปาล์มขวดตามต้นทุนการผลิตที่ปรับลดลง โดยร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า จะเริ่มปรับลดราคาน้ำมันปาล์มขวดลง 4-5 บาท จากราคาขายปัจจุบันที่ขวดละ 69-70 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 65 เป็นต้นไป เพื่อให้มีราคาสะท้อนตามต้นทุนที่แท้จริง และหากผลปาล์มดิบลดราคา น้ำมันปาล์มขวดก็ต้องปรับลดด้วยเป็นไปตามโครงสร้างการคำนวณราคาประมาณการของผลปาล์มน้ำมัน น้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันปาล์มขวด ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้เป็นราคาแนะนำให้ปฏิบัติ

ขณะที่ในฝั่งตลาดทุนราคาปาล์มที่ปรับตัวลดลง กลายเป็นปัจจัยลบต่อกลุ่มผู้ประกอบการน้ำมันปาล์ม โดยเฉพาะนับจากช่วงเดือน มิ.ย. 65 ที่ผ่านมาราคาหุ้นบนกระดานค่อยๆอ่อนตัวลงตามทิศทางราคาผลปาล์มดิบ

นำโดย บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ CPI สำหรับราคาหุ้น ณ วันที่ 15 ก.ค. 65 ปิดที่ระดับ 3.44 บาท เทียบกับราคาหุ้นทำจุดสูงสุดวันที่ 20 มิ.ย. 65 ปิดที่ระดับ 5.30 บาท ปรับตัวลง 35.09% โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มประเภทต่างๆ ทั้งน้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันเมล็ดในปาล์ม น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ น้ำมันเมล็ดในปาล์มบริสุทธิ์ และน้ำมันปาล์มโอเลอินตราลีลา

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์พลอยได้อื่นๆ เช่น ไขปาล์มบริสุทธิ์ กรดไขมันปาล์มและกากเมล็ดในปาล์มสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และอุตสาหกรรมพลังงาน

ส่วนผลประกอบการล่าสุดไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 65 มีกำไรสุทธิ 154.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152.82% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 61.11 ล้านบาท

บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ VPO สำหรับราคาหุ้น ณ วันที่ 15 ก.ค. 65 ปิดที่ระดับ 1.17 บาท เทียบกับราคาหุ้นทำจุดสูงสุดวันที่ 6 มิ.ย. 65 ปิดที่ระดับ 1.86 บาท ปรับตัวลง 37.10% โดยธุรกิจหลักมีสวนปาล์ม พลังงานทดแทนจากของเสียหรือสิ่งเหลือใช้จากโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ และธุรกิจขนส่งน้ำมันปาล์มดิบ ผลปาล์มทะลาย เมล็ดในปาล์ม น้ำเสียที่บำบัดแล้วและอื่นๆ

ส่วนผลประกอบการล่าสุดไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 65 ขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 2.60 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิถึง 34.25 ล้านบาท

บริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ UVAN สำหรับราคาหุ้น ณ วันที่ 15 ก.ค. 65 ปิดที่ระดับ 7.70 บาท เทียบกับราคาหุ้นทำจุดสูงสุดวันที่ 6 มิ.ย. 65 ปิดที่ระดับ 9.65 บาท ปรับตัวลง 20.21% โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบรายใหญ่ของไทย 

ส่วนผลประกอบการล่าสุดไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 65 มีกำไรสุทธิ 338.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 231.59% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 102.06 ล้านบาท

บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ LST สำหรับราคาหุ้น ณ วันที่ 15 ก.ค. 65 ปิดที่ระดับ 4.94 บาท เทียบกับราคาหุ้นทำจุดสูงสุดวันที่ 6 มิ.ย. 65 ปิดที่ระดับ 6.00 บาท ปรับตัวลง 17.67% โดยบริษัทมีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบที่จังหวัดตรัง และโรงกลั่นน้ำมันพืชในนิคมอุตสาหกรรมบางปู โดยมีสินค้าเรือธงที่รู้จักกันดี คือ น้ำมันปาล์มตราหยก

ส่วนผลประกอบการล่าสุดไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 65 มีกำไรสุทธิ 139.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.09% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 108.24 ล้านบาท

บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ UPOIC สำหรับราคาหุ้น ณ วันที่ 15 ก.ค. 65 ปิดที่ระดับ 6.60 บาท เทียบกับราคาหุ้นทำจุดสูงสุดวันที่ 6 มิ.ย. 65 ปิดที่ระดับ 9.10 บาท ปรับตัวลง 27.47% โดยบริษัทดำเนินกิจการปลูกปาล์มน้ำมัน และมีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น เช่น น้ำมันปรุงอาหาร เนยเทียม ไอศครีม สบู่ แชมพู ส่วนผสมอาหาร เคมีภัณฑ์ อาหารสัตว์ เป็นต้น และน้ำมันปาล์มยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตไบโอดีเซล ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือก

ส่วนผลประกอบการล่าสุดไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 65 มีกำไรสุทธิ 135.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 370.30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 28.82 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามราคาหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวของปาล์มน้ำมันมีการปรับตัวลงไปในทิศทางราคาผลปาล์มดิบและราคาน้ำมันปาล์มควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นมีโอกาสจะลงต่อ พร้อมต้องติดตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันปาล์มตลาดโลกให้ดี เสี่ยงที่จะมีการปรับฐานหลังผลผลิตฤดูกาลใหม่ออกสู่ตลาด

Back to top button