SET สัปดาห์นี้ Sideways Down จับตาประชุม ECB-ตัวเลขส่งออกไทย ชู BDMS-JASIF-CPF เด่น

SET สัปดาห์นี้ Sideways Down จับตาประชุม ECB-ตัวเลขส่งออกไทย-อภิปรายไม่ไว้วางใจ กลยุทธ์ลงทุนถือหุ้น 60% เน้นกลุ่ม “เปิดเมือง-บาทอ่อน-เทคฯ”


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ (18-22 ก.ค.65) จากบทวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน โดยระบุว่า สัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทย “Sideways Down” โดยมีแนวต้าน 1,546-1,560 จุด ส่วนแนวรับ 1,500-1,490 จุด

โดยในวันที่ 19 ก.ค.65 แนะติดตามยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐอเมริกา เดือน มิ.ย.65 โดยตลาดคาดโต 3.3% เทียบเดือนก่อนหน้า ดีขึ้นจากลดลง 14.4% เดือนก่อน, และวันที่ 20 ก.ค. ติดตามยอดขายบ้านมือสอง มิ.ย.65 ตลาดคาด 5.4 ล้านหลัง ลดลงเล็กน้อย พ.ค.2565 ที่ 5.41 ล้านหลัง

นอกจากนี้วันที่ 22 ก.ค. ติดตามรายงานตัวเลข Service PMI ก.ค. 65 สหรัฐฯตลาดคาด 52.0 ลดลงจากมิ.ย.65  ที่52.7 ส่วน Manufacturing PMI ยังไม่มีคาดการณ์เทียบ มิ.ย.65 อยู่ที่ 52.3 ยูโรโซน ตลาดคาด Service PMI และ Manufacturing PMI ที่ 51.0และ 52.0 เทียบ มิ.ย.65 อยู่ที่ 52.0 และ 52.1

อีกทั้ง 21 ก.ค.นี้จับตาการประชุม ECB Nomura และตลาดคาดว่า ECB จะขึ้นดอกเบี้ย 25 bp ทำให้ Deposit Facility Rate อยู่ที่ระดับ -0.25% ขณะที่ Main Refinancing Rate จะขยับจาก 0% เป็น 0.25% ทั้งนี้ต้องพิจารณาคู่กับเงินเฟ้อทั่วไป

นอกจากนี้ CPI ยูโรโซนที่จะรายงาน 19 ก.ค. ซึ่งตลาดคาดโต 8.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งจากพ.ค.65 โต 8.1%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านในประเทศวันที่ 19-22 ก.ค. ติดตามการอภิปรายไม่วางไว้ใจนายกรัฐมนตรีและ 10 รัฐมนตรี โดยปัจจุบันคะแนนเสียงรัฐบาลที่เหนือกว่าฝ่ายค้านแคบลง (248 vs 234 เสียง) หลังพรรคเศรษฐกิจไทยยื่นลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และวันที่ 22 ก.ค.ติดตามตัวเลขส่งออกเดือนมิ.ย.65 ตลาดคาด โต 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน vs prev. โต 10.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

อีกทั้งติดตามสถานการณ์ระบาด COVID ในประเทศระลอกใหม่ แม้ผู้ป่วยตาม ยังไม่สูงขึ้นอย่างมีนัยฯ แต่หลายหน่วยงานคาดตัวเลขระลอกนี้จะพีค ส.ค. – ก.ย.65 รวมทั้งติดตามรายงานงบการเงินกลุ่มธนาคารงวดไตรมาส 2/65 ส่วนใหญ่สัปดาห์หน้า คาดกำไร ลดลง 2.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  (หลักๆ จาก BAY ทีมีกำไรพิเศษจากการขาย TIDLOR) ส่วนธนาคารอื่นๆ ฟื้นตัวทั้งหมด โดยกำไรกลุ่มธนาคารไม่รวม BAY คาดจะเติบโต 17.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  แต่แนะนำติดตามตัวเลข NPL ประกอบ หากปรับเพิ่มจะเป็นลบ

กลยุทธ์การลงทุน : สัปดาห์นี้คาด SET ยังมีโอกาสผันผวนตามปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ชี้นำไปสู่ความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) นักลงทุนที่เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยระดับ 55%-60% กรอบแนวรับบริเวณ 1,550-1,530 จุด ให้รอจังหวะเพิ่มอีกครั้งเมื่อตลาดปรับฐานลงมา 1,510-1,480 จุด เน้น

1) หุ้นได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า มีเกราะป้องกันเงินเฟ้อ/เศรษฐกิจ (SAPPE, ASIAN, GFPT, CPF, BDMS, BH) หุ้น Anti-Commodities ที่เริ่มมีปัจจัยหนุนต้นทุนผ่านพีค (SCGP, GPSC, BGRIM, CBG) 2.) ส่วนหุ้น Reopening/Value ที่ลงแรงกว่าตลาด แนะนำลงทุนเพื่อระยะกลาง-ยาว (PLANB, HMPRO,ADVANC, TIDLOR, AMATA, SINGER, CRC, DTAC, CPALL, MAJOR, MAKRO, BEM,CRC, JASIF)  และ 3.) หุ้นเทคฯ/เติบโตที่มีพื้นฐานแกร่ง (JMT, JMART, BE8, BBIK, INSET, KCE) เน้นตั้งรับสะสมลงทุนระยะยาว

ส่วนหุ้นเด่นสัปดาห์นี้: แนะนำ BDMS, JASIF, CPF โดย CPF ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท สินค้าทนทานต่อเศรษฐกิจถดถอย ต้นทุนข้าวโพดต่ำสุดใน 6 เดือน ส่วน JASIF ผู้เช่าใหม่ ADVANC มั่นคง หวัง Yield เกินปีละ 7% ในระยะยาว และ BDMS ราคาเป้าหมาย31 บาท ทนทานเศรษฐกิจถดถอย ลุ้น Upside ลูกค้าใน+นอกประเทศ

Back to top button