SCB Abacus ขึ้นแท่นอันดับ 1 แพลตฟอร์มเงินกู้ออนไลน์ รับเงินทุนสูงสุดในไทย
SCB Abacus ขึ้นแท่นอันดับ 1 แพลตฟอร์มเงินกู้ออนไลน์ รับเงินทุนสูงสุดในไทย ภายใต้แอปพลิเคชัน “เงินทันเด้อ” ตั้งเป้าปล่อยกู้เพิ่ม 4 เท่าจากปีก่อน-เดินหน้าเพิ่มพันธมิตร มุ่งสู่ผู้นำในตลาดสินเชื่อดิจิทัลทั้งในไทย-อาเซียน
ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (SCB Abacus) ซึ่งเป็น Data Tech Startup ในกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ กล่าวว่า SCB Abacus ผู้ให้บริการสินเชื่อออนไลน์รูปแบบใหม่ในชื่อแอปพลิเคชัน “MoneyThunder” หรือ “เงินทันเด้อ” ศักยภาพดีเกินคาด สร้างความเชื่อมั่นในสายตานักลงทุนระดับโลก ปิดดีล Series B ได้ถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 700 ล้านบาท ขึ้นแท่นอันดับ 1 แพลตฟอร์มเงินกู้ออนไลน์ที่ได้รับเงินทุนสูงที่สุดในไทย ด้วยมูลค่าเงินทุนรวม 1.5 พันล้านบาท
ตั้งเป้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นเป็นผู้ช่วยคนแรกที่ลูกค้าจะนึกถึงในภาวะที่ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน พร้อมจับมือพันธมิตรร่วมกันให้โอกาสแก่ผู้ประกอบการรายย่อยและกลุ่มคนที่ไม่ต้องการพึ่งเงินกู้นอกระบบอีกต่อไป เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อดิจิทัลทั้งในไทยและอาเซียน
“ความสำเร็จในการระดมทุนครั้งนี้เกิดจากการที่เรามีเป้าหมายและภารกิจที่ชัดเจน นั่นคือการช่วยพลิกคุณภาพการเงินของคนเครดิตน้อย กู้ยากในไทย ผ่านแอปพลิเคชัน “เงินทันเด้อ” บริการสินเชื่อที่จะช่วยส่งต่อโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และแก้ปัญหาเงินกู้นอกระบบ โดยนำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาประมวลผลข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) เพื่อสร้างความแตกต่างสู่การเป็นสินเชื่อยุคดิจิทัล ซึ่งทีมงานของบริษัทล้วนเชื่อมั่นในเป้าหมายเดียวกัน จึงสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ผู้กู้รายย่อยจริง ๆ และส่งผลให้นักลงทุนเล็งเห็นศักยภาพที่เราจะเติบโตได้ดียิ่งขึ้นและสนับสนุนลูกค้าได้ตรงใจยิ่งกว่า”
ความสำเร็จในการระดมเงินทุน Series B ครั้งนี้ ทำให้ SCB Abacus ขึ้นในฐานะแพลตฟอร์มเงินกู้ออนไลน์อันดับ 1 ที่ได้รับเงินทุนสูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่ารวมสูงถึง 1.5 พันล้านบาท จาก SCB X Group และ Openspace Ventures, Vertex Ventures Southeast Asia, CAI Partners ซึ่งเป็นนักลงทุนระดับโลก สามารถยกระดับการให้บริการสินเชื่อออนไลน์ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า เพื่อต่อยอดสู่การเป็นมากกว่าแค่สินเชื่อ แต่เป็น “ผู้ช่วยที่เข้าใจ” และพร้อมเดินเคียงข้างลูกค้าที่ต้องการสานฝันให้เป็นจริง โดยบริษัทตั้งเป้าให้บริการสินเชื่อกับกลุ่มคนกู้ยาก 10% ในไทย ภายในสองปี
“เราจะพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเน้นการขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) ในประเทศและต่างประเทศ เพื่อก้าวเป็นบริษัทเทคโนโลยีไทยระดับยูนิคอร์นที่เน้น social impact” ดร.สุทธาภากล่าว
สำหรับแอปพลิเคชันเงินทันเด้อ ผลิตภัณฑ์หลักของ SCB Abacus เป็นแพลตฟอร์มกู้เงินถูกกฎหมายแบบออนไลน์ 100% ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้บริการเจาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ โดยบริษัทได้นำเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเองในชื่อ Abacus Core Technology (ACT) เข้ามาพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ทั้งนี้ บริษัทเป็นผู้ให้สินเชื่อดิจิทัลรายแรกในไทยที่ใช้การประมวลผลจากข้อมูลมหาศาลแบบรอบด้าน (Alternative Data) เพื่อสร้างโมเดลการอนุมัติแบบตอบโจทย์เฉพาะบุคคล (Personalization) จึงช่วยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อมากกว่า และได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบายที่สุด เพราะสามารถทราบผลการพิจารณาและได้รับวงเงินภายใน 15 นาที ตอกย้ำเป้าหมายการเป็น “Lifeline” ให้กับลูกค้าทั้งในภาวะกำลังฟื้นตัว และในทุก ๆ ก้าวของชีวิต
ด้วยการพัฒนาที่ยึดหลักความเข้าใจลูกค้านี้เองทำให้ปัจจุบันแอปพลิเคชันเงินทันเด้อมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 8 ล้านครั้ง โดยกว่าครึ่งเป็นผู้ที่เคยขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินแต่ไม่ได้รับการอนุมัติ และมากกว่า 40% เป็นคนที่เคยกู้เงินนอกระบบมาก่อน
นอกจากนี้ ผู้ขอสินเชื่อผ่านแอปเงินทันเด้อราว 15% ยังเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่อายุระหว่าง 20-25 ปี ซึ่งถือว่าตรงกับภารกิจสำคัญของ SCB Abacus ที่ต้องการเพิ่มโอกาสเข้าถึงเงินทุนให้กับคนกู้ยากหรือยังมีเครดิตน้อย และช่วยลดวงจรการเป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตัวเลขหนี้ครัวเรือนของไทยได้ในอนาคตอีกด้วย
นอกจากเรื่องของแพลตฟอร์มและกระบวนการขอสินเชื่อที่จะใช้งานง่ายขึ้น รวดเร็วทันใจขึ้น และปลอดภัยมั่นใจได้แล้ว ดร.สุทธาภา ยังเสริมด้วยว่า ความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้ภารกิจของบริษัทบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น โดยในปัจจุบัน บริษัทได้จับมือกับธุรกิจหลากหลายประเภท อาทิ ไปรษณีย์ไทย, ลาซาด้า, พีทีจี เอ็นเนอยี และฟู้ดแพนด้า เพื่อช่วยให้พนักงาน และลูกค้าของบริษัทพันธมิตรเข้าถึงสินเชื่อได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ SCB Abacus กำลังอยู่ในช่วงเดินหน้าเพิ่มพันธมิตรใหม่ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งมีวิสัยทัศน์เดียวกันในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยผ่านโอกาสทางการเงินที่เข้าถึงง่ายขึ้น เพื่อให้ลูกค้าบุคคลและผู้ประกอบการรายย่อยมีเงินทุนประกอบอาชีพอย่างเพียงพอที่จะเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่พร้อมจะผันผวนตลอดเวลา