ครม. เคาะงบ 4 พันลบ. ซื้อยารักษาโควิด-ชุดตรวจ ATK
ครม. เห็นชอบโครงการจัดหายารักษาผู้ป่วยโควิด-19 กรอบวงเงิน 3.99 พันลบ. แบ่งซื้อยารักษาโควิด-19 ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาโมนูพิราเวียร์ และยาเรมเดซิเวียร์ มูลค่ารวม 1.32 พันลบ. รวมทั้งเป็นการแบ่งค้างชำระ สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมนูพิราเวียร์ 165 ล้านเม็ด มูลค่า 2.65 พันลบ. และชุดตรวจ ATK จำนวน 1 ล้านหุ้น มูลค่า 23.50 ลบ.
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการจัดหายารักษาผู้ป่วยโควิด-19 กรอบวงเงิน 3,995.27 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย. 65) แบ่งเป็น สำหรับซื้อยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ (ของใหม่) ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมนูพิราเวียร์ เฉลี่ย 27 ล้านเม็ด/เดือน (จำนวน 1,296.00 ล้านบาท) และยาเรมเดซิเวียร์ จำนวน 57,000 หลอด/เดือน (จำนวน 21.96 ล้านบาท) วงเงินรวม 1,317.96 ล้านบาท รวมทั้งเป็นการแบ่งค้างชำระ สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมนูพิราเวียร์ 165 ล้านเม็ด (จำนวน 2,653.81 ล้านบาท) และค่าชุดตรวจ ATK จำนวน 1 ล้านชุด (จำนวน 23.50 ล้านบาท)
ทั้งนี้ โครงการจัดหายารักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับเตรียมความพร้อมในการรับมือและป้องกันโรคโควิด-19 และดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 สนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัยในหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับ
โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ครม.อนุมัติวงเงินจากเงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อมาดำเนินการด้านสาธารณสุข ซึ่งวงเงินมีไม่มากนักและต้องนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดไปจนถึงเดือนธ.ค.
ส่วนงบกลางมีการจัดเตรียมงบประมาณไว้ เพื่อใช้สำหรับรับมือสถานการณ์อุทกภัยหรือเรื่องอื่นๆที่มีความสำคัญในการบริหารราชการในช่วงท้ายปีงบประมาณ จึงจำเป็นต้องใช้จ่ายระมัดระวังที่สุด