ตระกูล “ไชยวรรณ” ยันขายหุ้น เพิ่มฟรีโฟลต ตามเกณฑ์ตลาด 20%
“ไทยประกันชีวิต” ขายไอพีโอหมดเกลี้ยง “กลุ่มไชยวรรณ” ยันขายหุ้นหวังเพิ่มฟรีโฟลต ให้เข้าเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด 20% ฟากฟิทช์ฯ ประเมินโครงสร้างบริษัทแข็งแรง มาจากโครงสร้างธุรกิจที่ดีโตยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI มีการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) ราคาเสนอขายอยู่ที่ 16 บาทต่อหุ้น จำนวนเสนอขายไม่เกิน 2,155.07 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 18.80% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน ในหมวดธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต
โดยแผนเสนอขายหุ้นของไทยประกันชีวิตมาจาก 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอโดยบริษัทจำนวน 850 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 7.40% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้
2.หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท วี.ซี. สมบัติ จำกัด จำนวนไม่เกิน 1,166,575,300 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 10.2% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้
3.หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Her Sing (H.K.) Limited จำนวนไม่เกิน 138,493,600 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 1.2% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้
สำหรับการเปิดจองซื้อหุ้น TLI ของนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในประเทศไทยระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.-6 ก.ค.65 และผู้ลงทุนสถาบันที่จองซื้อระหว่างวันที่ 11-12 และ 14 ก.ค.65 ที่ผ่านมา โดยปรากฎว่าหุ้น TLI ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีเยี่ยมและความสนใจในการลงทุนเป็นจำนวนมาก แม้ในสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ด้านตลาดทุนที่ยังคงมีความผันผวนเป็นอย่างมากบริษัทและทีมผู้บริหารของไทยประกันชีวิตมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะต่อยอดความสำเร็จทางธุรกิจ
ทั้งนี้เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว และเพื่อประโยชน์สูงสุดของนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ตลอดจนมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ไทยประกันชีวิตจะเป็นบริษัทประกันชีวิตที่สามารถสร้างผลกระทบในเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทย ตลอดจนอยู่เคียงข้างดูแลลูกค้าและคนไทยอย่างยั่งยืน
ส่วนจำนวนหุ้น IPO ของไทยประกันชีวิตที่ทางกลุ่มตระกูลไชยวรรณนำหุ้นเดิมออกมาเสนอขายให้ประชาชนทั่วไปจากบริษัท วี.ซี. สมบัติ จำกัด และ Her Sing (H.K.) Limited รวมจำนวน 1,305,068,900 หุ้น ในราคาเสนอขาย 16 บาท/หุ้น หลักสำคัญในการนำหุ้นออกมาขายส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการปรับเกณฑ์สภาพคล่องตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ สะท้อนถึงสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free Float) หรือหุ้นที่หมุนเวียนซื้อขายในตลาดเกิน 20%
รวมถึงการระดมทุนเชื่อว่าจะทำตามวัตุประสงค์การใช้เงินในการขยายธุรกิจเพื่อบริษัทมีความแข็งแกร่งยั่งยืน เพราะอย่างไรก็ตามการนำเงินที่ได้มาแล้วกองไว้ไม่ได้ประโยชน์อะไรเพราะจะทำให้ ROE ต่ำ ซึ่งบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ต่ำ
ขณะเดียวกันไทยประกันชีวิต ประกาศมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืนแห่งแรกของธุรกิจประกันชีวิต วางยุทธศาสตร์ 3P ขับเคลื่อนองค์กรและสังคมเติบโตเข้มแข็งและยั่งยืน ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG
นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับเครดิตทางการเงินระดับโลก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ประกาศคงอันดับเครดิตความแข็งแกร่งทางการเงินสำหรับไทยประกันชีวิต โดยมีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศที่ “AAA (tha)” มุมมองมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นอันดับเครดิตในระดับประเทศที่สูงที่สุด และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ “A-” หรืออยู่ในระดับแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ฟิทช์ฯ ประเมินโครงสร้างการดำเนินงานของบริษัทอยู่ในระดับแข็งแรง เป็นผลจากโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง และการมีบรรษัทภิบาลดี เมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นภายในประเทศไทย บริษัทมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่มีขนาดใหญ่ และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 2 ในประเทศไทยในด้านเบี้ยประกันชีวิตรวม ณ 31 ธ.ค. 64 ตลอดจนบริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่มีความหลากหลาย ช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง ผ่านเครือข่ายตัวแทนประกันชีวิต ธนาคารพาณิชย์ และพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลาย