ป.ป.ช.ฟัน “ทนง พิทยะ กับพวก” คดีสินบนโรลส์รอยซ์ 254 ล้านบาท
ป.ป.ช. มีมติ 6 ต่อ 2 เสียง ชี้มูลความผิด “ทนง พิทยะ กับพวก” คดีสินบนโรลส์รอยซ์ ระหว่างปี 2547-2548 วงเงินกว่า 254 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติตามที่องค์คณะไต่สวนเสนอชี้มูลความผิดชี้มูลความผิดนายทนง พิทยะ กับพวก กรณีถูกกล่าวหาในคดีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐเรียกรับเงินจากบริษัท โรลส์รอยซ์ฯ ผู้นำเข้าเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน Boeing 777-200ER ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI หรือคดีสินบนโรลส์รอยซ์ ครั้งที่ 3 ระหว่างปี 2547-2548 รวมความเสียหายประมาณ 7.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นไทยราว 254 ล้านบาทนั้น นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ยืนยันว่า กระแสข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง
โดยมีรายงานว่า เมื่อวานนี้ (18 กรกฎาคม 2565) คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 6 ต่อ 2 เสียง ชี้มูลความผิดแก่นายทนง พิทยะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการการบินไทย และที่ปรึกษาอนุกรรมการพิจารณาแผนการลงทุนระยะยาวของบริษัท และนายกวีพันธ์ เรืองผกา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการเงินและการบัญชี ฝ่ายบริหารงานนโยบายการบินไทย โดยทั้ง 2 ราย มีความผิดตามมาตรา 8 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502
แต่ปรากฎว่าความผิดตามมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวขาดอายุความในคดีนี้ไปแล้ว ดังนั้นจึงเหลือแค่ความผิดตาม มาตรา 8 คือผู้ใดเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัดห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 40,000 บาท
ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือ เช่น นายกนก อภิรดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย ฝ่ายบริหารงานนโยบาย และรองประธานอนุกรรมการพิจารณาแผนการลงทุนระยะยาวของการบินไทย มีความผิดทางวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ดีนายกนกเกษียณอายุราชการไปนานแล้ว ส่วนผู้ถูกกล่าวหารายอื่นๆ มีทั้งผิดวินัยไม่ร้ายแรง และบางรายพ้นข้อกล่าวหา