บริหารล้มเหลว! “ชลน่าน” จั่วหัวอภิปรายไม่ไว้วางใจ “บิ๊กตู่” 8 ปีไร้น้ำยา

เปิดฉากศึกซักฟอก ผู้นำฝ่ายค้านเปิดอภิปราย อัดรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารล้มเหลว ทำเศรษฐกิจประเทศล้มป่วยเหมือนกลุ่ม 608


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่วางวางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงคณะรัฐมนตรีรวม11 คน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวเปิดการอภิปรายเน้นย้ำความผิดพลาดและล้มเหลวของรัฐบาลพล.อ.แ ตามข้อกล่าวหาที่ได้ยื่นไปก่อนหน้านี้

โดยเฉพาะในส่วนของนายกรัฐมนตรี ที่พบว่าตลอด 8 ปีของการบริหารราชการ เกิดความผิดพลาดล้มเหลว ได้ทำผิดซ้ำซากเพื่อสืบทอดอำนาจ หวังสกัดกั้นคู่แข่งทางการเมือง ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประชาชน เห็นได้จากการออกแถลงการณ์ 3 แกนในการฟื้นประเทศ ซึ่งซ่อนความจริงที่จะขออยู่ในอำนาจต่อไปอีก 2 ปี เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ มุ่งแสวงหาอำนาจให้กับตัวเองและพวกพ้อง โดยอาศัยกลไกในรูปแบบต่างๆ อย่างไรก็ตามการอภิปรายครั้งนี้ โดยเฉพาะการเปิดโปงข้อมูลทุจริตจะนำไปสู่กระบวนการทางกฎหมายเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำประเทศยังมีความผิดพลาดล้มเหลวด้านเศรษฐกิจ ทำให้สถานะของประเทศที่มีโอกาสเป็นผู้นำในภูมิภาคกลายเป็นประเทศที่ล้มป่วยเหมือนกลุ่ม 608 มีการกู้เงินเกือบเต็มเพดานทุกปี เห็นได้จากการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลงทุกปี นักลงทุนย้ายฐานการผลิต เศรษฐกิจตกต่ำในอันดับต้นๆ ฟื้นตัวรั้งท้ายของโลก ผูกขาดเอื้อประโยชน์ให้ทุนใหญ่ จัดงบประมาณกระจุกตัว แสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง คนจนเพิ่มมากสุดเป็นประวัติการณ์ คนว่างงานมากสุด หนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะสูงสุด ค่าครองชีพสูงสุด

ส่วนเรื่องที่อัปยศที่สุดคือ การใช้สูตรหาร 500 หารคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ โดย นพ.ชลน่าน ระบุว่า มีการสั่งการจากทำเนียบรัฐบาลเรียกแกนนำพรรคไปสั่งการให้ก้าวล่วงนิติบัญญัติลงมติตามที่ตัวเองต้องการ อย่างไร้สำนึกทางการเมือง เป็นการจับหมูตัวเดียว แต่เผาบ้านตัวเองพังพินาศ การบริหารงาน พล.อ.ประยุทธ์ จึงถือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยครองงำและชี้นำพรรคการเมือง ถือเป็นการทำลายระบบรัฐสภาอย่างชัดเจน

จากนั้น พลเอก ประยุทธ์ ได้ใช้สิทธิชี้แจงข้อกล่าวหาทันที โดยตอบโต้ว่า ฝ่ายค้านมองการทำงานของรัฐบาลเพียงด้านเดียว ซึ่งการแก้ปัญหาโควิด -19 ของรัฐบาล ยืนยันว่าประสบผลสำเร็จเป็นที่พอใจได้รับการยอมรับ ใช้กลไกการแก้ปัญหาดำเนินการอย่างบูรณาการ เช่นเดียวกับหลายประเทศที่สามารถเปิดประเทศได้ และมีรายได้จากการท่องเที่ยวการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อวางรากฐานที่มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนของประเทศในอนาคต ซึ่งหากฝ่ายค้านมองด้วยใจก็จะเห็นชัดเจน พร้อมย้ำข้อกล่าวหาหลายอย่างที่อภิปรายไม่ใช่ข้อเท็จจริง

พร้อมย้ำว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทั้งเรื่องของความขัดแย้ง และปัญหาด้านเศรษฐกิจ ต้องมองย้อนไปในอดีตว่าต้นตอของปัญหาที่แท้จริงคืออะไร และตนไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาที่สำคัญ ก่อนกล่าวทิ้งทาย “ตนทราบดีว่า ท่านชื่นชมหลายคนที่เคยทำงานมาก่อนว่าดีกว่าตน แต่ไม่เป็นไรก็ขอเอากลับมาให้ได้แล้วกัน”

สำหรับวันแรกของการอภิปราย ฝ่ายค้านกำหนดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอนุทิน ชาญวีรกูล, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ, นายสุชาติ ชมกลิ่น, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รวม 5 คน ทั้งนี้คาดว่าจะพักการประชุมในเวลาประมาณ 00:30 น.

Back to top button