คนละหมัด! ก้าวไกล แฉ “นิพนธ์” ออกโฉนดเอื้อนายทุนซ้ำรอย ส.ป.ก. 4-01

นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ เปิดข้อมูล “นิพนธ์ บุญญามณี” ออกโฉนดเอื้อนายทุน หวังผลประโยชน์ส่วนตัว ด้านเจ้าตัวโต้ทันควัน ส.ส.ก้าวไกลแค่มโนข้อมูล ย้ำออกโฉนดในที่ดินเอกชน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คนต่อเป็นวันที่สอง ภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ถึงความไม่โปร่งใสในการออกเอกสารสิทธิในโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ ที่มีการออกโฉนดโดยไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ให้กลุ่มนายทุน นักธุรกิจว่า โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อกระจายการออกโฉนดที่ดินทำกินให้ชาวบ้าน แต่ของจริงกลับถูกนายนิพนธ์เปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์

โดยมีข้อกังขาการส่อทุจริตในการออกโฉนดโดยไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์หลายแห่ง อาทิ ที่ดินเกาะนุ้ยนอก ที่เป็นเกาะกลางทะเล จ.กระบี่ มีการออกโฉนดพื้นที่ที่ไม่เคยมีการใช้ประโยชน์ ซึ่งขัดหลักเกณฑ์การห้ามออกโฉนด แต่ไปสร้างหลักฐานเท็จ สร้างร่องรอยการใช้ประโยชน์ที่ดินปลอมขึ้น เพื่อออกโฉนดให้ผู้อำนวยการในกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แต่เมื่อเป็นข่าว จึงได้เพิกถอนโฉนดดังกล่าว โดยไม่มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการออกโฉนด

ต่อมาเจ้าหน้าที่กลุ่มเดิมได้ไปออกโฉนดแบบผิดหลักเกณฑ์ให้กลุ่มนายทุนต่อที่ เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา เมื่อเดือนมีนาคม 2565 โดยพบว่า มีนายทุนบางคนได้โฉนดคนเดียวถึง 20 แปลง แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ การไปออกโฉนดที่หาดนาใต้ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา วันเดียว 27 แปลง บรรดานายทุน นักธุรกิจ เจ้าของโรงแรม ไม่ใช่คนในพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นชายหาดสวยงามมาก โดยที่ดินดังกล่าวเคยมีคำพิพากษาเป็นพื้นที่ป่าสงวน จนคนบุกรุกถูกเพิกถอนที่ดินไปแล้ว แต่ยังดำเนินการออกโฉนดให้

นายประเสริฐพงษ์ อภิปรายต่อว่า รายชื่อผู้ได้โฉนดที่ดิน 27 แปลง นอกจากจะเป็นนายทุน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว บางคนยังเป็นนอมินีที่ถือครองที่ดินแทนว่าที่ผู้สมัครส.ส.พังงาสมัยหน้าให้พรรคสีฟ้า และอีกคนคือน้องสาวของนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อดีตอัยการสูงสุด ที่เป็นผู้สั่งไม่ฟ้องนายนิพนธ์ในคดีรถซ่อมบำรุงทาง สมัยที่นายนิพนธ์ดำรงตำแหน่งนายกฯ อบจ.สงขลา โดยอ้างมีข้อไม่สมบูรณ์ในคดี ช่วยให้นายนิพนธ์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไปได้ จนในที่สุด ป.ป.ช.ต้องเป็นผู้ฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลเอง ถือเป็นการสมประสงค์ของนายนิพนธ์

โดยจะเห็นได้ว่า โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ มีการออกโฉนดเอื้อให้พวกพ้อง ออกโฉนดโดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าเป็นเกษตรกรหรือไม่ แต่ตัดตอนกระบวนการไม่ให้รัฐมนตรีเกี่ยวข้อง ให้จบแค่ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจรังวัดที่ดินจังหวัดเท่านั้น รัฐมนตรีแค่ปิดตาข้างเดียว ซ้ำรอยคดีแจก ส.ป.ก.4-01ของรัฐมนตรีพรรคเดิม แต่คราวนี้มาอย่างแนบเนียนขึ้น

ทั้งนี้ทำให้นายนิพนธ์ ต้องใช้สิทธิชี้แจงว่า ข้อมูลที่นำมาอภิปรายคราวที่แล้วก็เอาข้อมูลตัดแปะมาอภิปราย และรอบนี้นายประเสิรฐพงษ์ ก็นั่งนึกเอาเองมาอภิปรายตน ถ้าจะถามตนแค่นี้ไปตามตนในห้องเล็กช่วงถามกระทู้ห้องแยกเฉพาะก็ได้ โดยเรื่องที่พาดพิงกล่าวหาสมัยตนเป็นนายกอบจ.สงขลาว่า คนที่ได้รับการออกโฉนดเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ในสำนักอัยการสูงสุดนั้น ตนไม่รู้จัก หรือจะเกี่ยวพันกับตนได้อย่างไร ที่กล่าวมาอาจเกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอก ดังนั้นนายประเสิรฐพงษ์ต้องรับผิดชอบ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกรมที่ดินนั้นตนเคยชี้แจงแล้ว

นายนิพนธ์ ยังชี้แจ้งเรื่องการออกโฉนดเกาะนุ้ยนอกว่า หลังจากที่มีข่าวก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลย โดยมีเอกสารแจ้งและสรุปผลการตรวจสอบว่าให้ดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ทั้งทางวินัยและอาญา ดำเนินการเด็ดขาดกับผู้กระทำความผิด จึงเป็นที่มาในการตั้งกรรมการสอบวินัยเจ้าหน้าที่ เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ทำความผิด แต่ตนก็สั่งให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และตั้งกรรมการสอบสวน จากนั้นมีมติให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน ซึ่งใช้เวลาเพียง 80 วันในการดำเนินการสอบสวน และบัดนี้ผู้เกี่ยวข้องทั้ง 4 รายก็ถูกให้ออกจากราชการแล้ว

ทั้งนี้ตนมอบนโยบายชัดเจนให้กรมที่ดินห้ามออกโฉนดที่ดินของรัฐทุกประเภท และทุกที่ที่จะเดินสำรวจออกโฉนด ทั้งเกาะนุ้ยนอก เกาะยาว เกาะหาดนาใต้ ทุกที่ตนไม่รู้จักผู้ได้รับผลประโยชน์เลย ถือหลักว่าใครควรได้ก็ควรได้ เพราะไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่ตนมาอยู่ออกโฉนดไปแล้ว 3,000 กว่าแปลง เมื่อชาวบ้านได้ต่างก็ดีใจ ตอกย้ำความสำคัญของโฉนดที่ดินต่อชีวิต และจะเร่งรัดเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ที่ตอนนี้มีชาวบ้านลงทะเบียนไว้แล้ว 500,000 ราย หากดูแล้วว่าไม่อยู่ที่ดินของรัฐก็จะเร่งรัดให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์

ส่วนเรื่องเขากระโดงที่เกี่ยวของกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นั้น นายนิพนธ์ ยืนยันว่า ถ้าพื้นที่ไหนเป็นของรัฐ ออกโฉนดไม่ได้แน่นอน กรณีที่ดินคุณแม่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวไกล เริ่มปี 2563 ร้องมาที่ กรมป่าไม้ แล้ว 11 มกราคม 2564 ได้มีการร้องให้เพิกถอนที่ดิน กรมป่าไม้มาร้องกับกรมที่ดิน แล้วกรมที่ดิน ก็มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวน ใช้เวลา 1 ปี 1 เดือน มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ ที่ดิน 59 แปลง คดีนี้กรมป่าไม้มาชี้พื้นที่เอง ซึ่งต่างกับกรณี “เขากระโดง” ที่กรมที่ดินให้การรถไฟมานำชี้ แต่การรถไฟแห่งประเทศไทย รฟม.บอกให้ใช้แผนที่ แต่คดีนี้จบแล้ว เพราะ รฟม.ส่งคนไปฟ้องกรมที่ดิน คดีอยู่ที่ศาล

นายนิพนธ์ ยังชี้แจงเรื่องนโยบายให้ต่างชาติถือครองที่ดินในไทยว่า กฎหมายกรมที่ดิน เปิดโอกาสคนต่างชาติ สามารถมีที่ดินในประเทศไทยได้ เมื่อกฎหมายเปิดโอกาสให้คนต่างชาติถือครองที่ดินได้ โดยมีกำหนดต้องมีเงิน 40 ล้าน ลงทุน 5 ปี และซื้อที่ดินได้เฉพาะพื้นที่สีเหลืองที่อยู่อาศัยเท่านั้น พื้นที่การเกษตรซื้อไม่ได้ แล้วใช้มาตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบันมีคนต่างชาติ 8 ราย ใช้กฎหมายมาตรานี้ ที่บอกว่า เป็นกฎหมายชาติมันไม่ใช่ มันเป็นกฎหมายเก่า

Back to top button