ลุ้น NSL โกยกำไรปีนี้โต 30% เฉียด 250 ลบ. รับเปิดประเทศ “โบรก” ชูเป้า 21 บ.

NSL โบรกชี้กำไรปี 65 แตะ 248 ล้านบาท โต 30% คาดฟื้นตัวตามการเปิดประเทศและนักท่องเที่ยวกลับมา โบรกแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (22 ก.ค.65) ประเมิน บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 204% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ มาจากรายได้ที่ คาดฟื้นตัวโดดเด่น ตามการเปิดประเทศ, เปิดเรียน และนักท่องเที่ยวกลับมา และด้วยแซนด์วิชอบร้อนที่เป็นสินค้าขายดีในกลุ่มนักเรียนและคนทำงานอยู่แล้วจึงคาดรายได้รวมจะยังเติบโตดีเพิ่มขึ้น 4.5% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 22.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการโตดีกว่าจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของเซเว่นอีเลฟเว่นที่คาดเพิ่มขึ้น 12-13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แม้จะมีการปรับขึ้นของราคาสินค้าบางรายการ

ทั้งนี้เพื่อสะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น แต่โดยหลักยังมาจากปริมาณขายที่ฟื้นตัวดีมาก และด้วยกำลังการผลิตที่สูงขึ้นหักล้างต้นทุนที่ขยับขึ้นได้ทั้งหมด คาดช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นยังทรงตัวที่ระดับ 18.4% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า ประกอบกับยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี แม้จะเผชิญต้นทุนค่าขนส่ง และค่าสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น คาด SG&A to Sale ทรงตัวที่ระดับ 9%

โดยหากกำไรไตรมาส 2/2565 เป็นไปตามคาด ทำให้บริษัทจะมีกำไรครึ่งปีแรก 2565 ที่ 139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 56% ของประมาณการทั้งปี โดยล่าสุดแนวโน้มเดือนกรกฎาคมยังดูสดใสต่อเนื่อง ทั้งที่ปกติเริ่มเข้าช่วง Low Season ที่เป็นหน้าฝน ยังคงมองว่าส่วนหนึ่งมาจากการเปิดประเทศ และมีวันหยุดยาว ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเห็น Traffic ของเซเว่นอีเลฟเว่นอ่อนค่าจากไตรมาสก่อนหน้าในช่วงที่เหลือของไตรมาสตามฤดูกาล และคาดกำไรไตรมาส 3/2565 จะยังเติบโตสูงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเพราะฐานกำไรที่ต่ำมากเพียง 24 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 3/2564 มีการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า และคาดกำไรจะดีต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/2565 ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่กำไรจะทำจุดสูงสุดอีกครั้ง

นอกจากนี้ ปัจจุบันยังคาดกำไรสุทธิปี 2565 ไว้ที่ 248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสถานการณ์โดยรวมดูดีกว่าประมาณการของทางฝ่ายวิจัย รวมทั้งการฟื้นตัวของรายได้ที่แข็งแกร่งกว่า และผลกระทบของต้นทุนวัตถุดิบที่น้อยกว่าคาด

สำหรับช่วงที่ผ่านมาอาจเจอเนื้อสัตว์ น้ำมันปาล์ม และแป้งสาลีขยับขึ้น แต่ล่าสุดราคาน้ำมันปาล์มและแป้งสาลีเริ่มปรับตัวลง ขณะที่บริษัทมีการสต็อกวัตถุดิบเพียง 1-2 เดือน คาดว่าจะเห็นต้นทุนอ่อนตัวลงในระยะถัดไป เบื้องต้นเริ่มเห็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรปี 2565 ราว 5-8% ทั้งนี้ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 21 บาท ปัจจุบันซื้อขายบนค่า PE เดิมที่ 25 เท่า

Back to top button