สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ก.ค. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ก.ค. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (22 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทสแนป ขณะที่การปรับตัวลงของหุ้นโซเชียลมีเดียและหุ้นเทคโนโลยีการโฆษณา (AdTech) ได้บดบังปัจจัยบวกจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรสซึ่งคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่สดใส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,899.29 จุด ลดลง 137.61 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,961.63 จุด ลดลง 37.32 จุด หรือ -0.93% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,834.11 จุด ลดลง 225.50 จุด หรือ -1.87%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (22 ก.ค.) โดยปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะขาดแคลนพลังงาน, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง และวิกฤตการเมืองในอิตาลี
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 425.71 จุด เพิ่มขึ้น 1.32 จุด หรือ +0.31%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,216.82 จุด เพิ่มขึ้น 15.71 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,253.68 จุด เพิ่มขึ้น 7.04 จุด หรือ +0.05% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,276.37 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด หรือ +0.08%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (22 ก.ค.) และปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,276.37 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด หรือ +0.08% และปิดบวก 1.8% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (22 ก.ค.) หลังถูกกดดันจากแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันเบนซินที่ลดลงในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐซึ่งชาวอเมริกันมักขับขี่รถยนต์เพื่อท่องเที่ยว โดยราคาน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่สัญญาส่งมอบเดือนก.ย.ยังคงปรับตัวขึ้นได้ในรอบสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.65 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 94.70 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.1%
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 66 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 103.20 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ในรอบสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้น 2%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (22 ก.ค.) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. และปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ หลังจากลดลง 5 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 14 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 1,727.4 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. และเพิ่มขึ้น 1.4% ในรอบสัปดาห์นี้ หลังจากลดลง 5 สัปดาห์ติดต่อกัน
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 10.2 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 18.617 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 8.5 ดอลลาร์ หรือ 0.99% ปิดที่ 867.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 142.10 ดอลลาร์ หรือ 7.6% ปิดที่ 2,018.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (22 ก.ค.) โดยดอลลาร์ถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.17% แตะที่ระดับ 106.7300
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 136.20 เยน จากระดับ 137.65 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9640 ฟรังก์ จากระดับ 0.9685 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2921 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2893 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0198, เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1980 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1952 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6912 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6903 ดอลลาร์สหรัฐ