12 หุ้นน่าสอย! “บล.ไทยพาณิชย์” เล็งอัพเป้ากำไรปี 65 ชู BCP-AWC-ERW แกร่ง

เปิดโผ 12 หุ้นในกลุ่มโรงกลั่น-การแพทย์-ท่องเที่ยว มีโอกาสที่ “บล.ไทยพาณิชย์” จะปรับประมาณการกำไรปี 65 เพิ่มขึ้น 1-5% หลังประกาศงบไตรมาส 2/65 ชี้มีปัจจัยบวกสนับสนุนทั้งค่าการกลั่นสูงกว่าคาด โควิดสายพันธุ์ใหม่ระบาด และเปิดประเทศ  แนะหาจังหวะลงทุน BCP-AWC-ERW


บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ก.ค.65) ว่า ล่าสุดจากการศึกษา บจ. ที่ดูแลทั้งหมด 90 บริษัท และจากมุมมองของนักวิเคราะห์ SCBS พบว่า มีจานวน 12 บจ. ได้แก่ BCP, ESSO, IRPC, GGC, SPALI, SPRC, BCH, BH, RJH, AWC, CENTEL และ ERW มีโอกาสที่จะมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้หลังประกาศงบไตรมาส 2/65 ซึ่งคิดเป็น 31% ของ Market Cap. ของหุ้นที่คาดจะถูกปรับประมาณการ (68% ของกำไรรวมของหุ้นทั้งหมดที่มีโอกาสปรับประมาณการ) ขณะที่มีจำนวน 15 บจ. มีโอกาสที่จะปรับลดประมาณการกาไรปีนี้หลังประกาศงบไตรมาส 2/65  ซึ่งคิดเป็น 70% ของ Market Cap. ของหุ้นที่คาดจะถูกปรับประมาณการ (32% ของกำไรรวมของหุ้นทั้งหมดที่มีโอกาสปรับประมาณการ)

ทั้งนี้การปรับประมาณการกำไรปีนี้ของ บจ. ดังกล่าวคาดจะมีผลกระทบต่อภาพรวมของกำไรปีนี้ค่อนข้างจำกัด และมีผลต่อเป้าหมาย SET Index ไม่มากนัก จึงมองว่า SET Index มีแนวโน้มไม่หลุด 1,500 จุดจากประเด็นการปรับประมาณการครั้งนี้

โดยจากการประเมินโอกาสปรับประมาณการกำไรปีนี้หลังประกาศงบไตรมาส 2/65 พบว่า 1) กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่คาดมีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไร ได้แก่ กลุ่มโรงกลั่น จากมีค่าการกลั่นที่สูงกว่าคาด, กลุ่มการแพทย์ จากโควิดสายพันธุ์ BA.5 ระบาดทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น หนุนรายได้โควิด-19 มากกว่าคาด และกลุ่มท่องเที่ยว จากการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมที่ดีกว่าคาดหลังเปิดประเทศ

ส่วน 2) กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่คาดมีโอกาสปรับลดประมาณการกำไร ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร จากภาวะแข่งขันที่สูง, กลุ่มอาหาร จากส่วนแบ่งตลาดลดลงและต้นทุนสูงกว่าคาดกดดันมาร์จิ้น อีกทั้งมีความเสี่ยงด้านนโยบายและกำลังซื้อของประเทศคู่ค้า (เมียนมา) , กลุ่มหลักทรัพย์จากวอลุ่มและตลาดหุ้นไทยที่ปรับลง และกลุ่มขนส่ง จากการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น

ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่งและยังมี Valuation ที่น่าสนใจ รวมทั้งมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้หลังประกาศงบไตรมาส 2/65 จึงแนะนำ “หาจังหวะซื้อลงทุน” สำหรับบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP, บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC และบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW

ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำ “หลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อน” สำหรับ บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MST, บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน)  หรือ NRF, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เนื่องจากคาดเป็นหุ้นที่มีโอกาสสูงจะโดนตลาดปรับลดประมาณการเช่นเดียวกับ SCBS (ทั้งนี้เน้นเลือกหุ้นที่กำไรของ SCBS ใกล้กับตลาดหรือต่ำกว่าตลาดอยู่แล้ว)

Back to top button