YONG ดีเดย์เทรดวันนี้! ลุ้นวิ่งทะลุ 3 บ. โบรกการันตีกำไรแกร่ง หลังขยายโรงงานเพิ่ม

“ยงคอนกรีต” หรือ YONG ดีเดย์เทรดวันนี้ (2 ก.ค.65) ลุ้นวิ่งทะลุ 3 บ. จากราคาเสนอขาย IPO ที่ 2.5 บ. โบรกการันตีกำไรโตแกร่ง หลังขยายโรงงาน หนุนกำลังผลิตเพิ่ม คาดกำไรปี 66 โต 41%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 ส.ค.65) บริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ YONG จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดย YONG และบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป คอนกรีตผสมเสร็จ และให้บริการติดตั้งโครงสร้างสำเร็จรูป โดยมีเครื่องหมายการค้า YONG

สำหรับผลิตภัณฑ์และงานบริการของกลุ่มบริษัท แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่  1. ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปอย่างครบวงจร ประกอบด้วย โครงสร้างคาน เสา ผนังสำเร็จรูป เสาเข็ม และรั้วคอนกรีตสำเร็จรูป เป็นต้น 2. ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ และ 3. ธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้า ดำเนินธุรกิจโดยบริษัท พร้อมขนส่ง จำกัด (บริษัทถือหุ้น 100%) โดยมีโรงงานผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป และ/หรือโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จอยู่ 7 แห่งในจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม และชลบุรี

โดย YONG มีทุนชำระแล้ว 340 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 500 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 180 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และนักลงทุนสถาบันไม่น้อยกว่า 165 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 5 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท ไม่เกิน 10 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 21-22  และ 25 กรกฎาคม 2565 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 450 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,700 ล้านบาท

ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 26.10 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 เมษายน 2564 – 31 มีนาคม 2565) ซึ่งเท่ากับ 65.14 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.10 บาท โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ

ด้านนายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร กรรมการผู้จัดการ YONG กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 2 สิงหาคม 2565 นี้ โดยใช้ชื่อย่อ YONG ในการซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นอีกก้าวสำคัญสู่ความยั่งยืนและมั่นใจว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนจะสนับสนุนโอกาสในการขยายศักยภาพเพิ่มกำลังการผลิต

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 450 ล้านบาท (ก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) ใช้สำหรับ (1) ใช้เป็นเงินลงทุนในการก่อสร้างโรงงานที่อ.บางเลน จ.นครปฐม จำนวน 120 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตและพัฒนาระบบที่เกี่ยวข้อง (2) ใช้ลงทุนก่อสร้างโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จ ที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จำนวน 20 ล้านบาท (3) ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน จำนวน 120 ล้านบาท และ (4) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ จำนวน 190 ล้านบาท เพื่อรองรับงานก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนดังกล่าวภายในปี 2565 สำหรับรองรับการเติบโตของบริษัท ทั้งในการขยายกำลังการผลิตของโรงงานผลิตเดิม และการเปิดโรงงานการผลิตใหม่

อีกทั้งเป็นการยกระดับมาตรฐานของบริษัทเข้าสู่มาตรฐานสากลในอีกระดับ เพิ่มความน่าเชื่อถือในด้านภาพลักษณ์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและคู่ค้า รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งนี้จะพิจารณาการใช้เงินทุนหมุนเวียนในกิจการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น และเพื่อการเติบโตในอนาคต และสร้างผลตอบแทนนักลงทุนในระยะยาว

ทั้งนี้ มองว่าธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทมีความเกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นหลัก รวมถึงการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัด ในภาคตะวันออก ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา โดยจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อสามสนามบิน เป็นต้น ส่งผลให้มีความต้องการวัสดุก่อสร้างจากผู้ประกอบการในแถบพื้นที่บริเวณนั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทเนื่องจากบริษัทสามารถที่จะจำหน่ายวัสดุก่อสร้างได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากบริษัทมีโรงงานผลิตที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี และมีแผนการลงทุนในอนาคตที่จะลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปที่จังหวัดระยอง ขณะที่การลงทุนจากภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ส่วนนายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ YONG เปิดเผยว่า YONG จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตรายใหญ่ในภาคกลาง ภาคตะวันตกและโซนภาคตะวันออกที่คร่ำหวอดในวงการมานานกว่า 30 ปี มีลูกค้าชั้นนำกระจายอยู่ในหลายอุตสาหกรรมทั้งภาครัฐและเอกชน

รวมทั้งมีการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนได้ดี ตลอดจนทีมงานวิศวกรที่มากประสบการณ์ จะสนับสนุนโอกาสภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น รองรับการขยายกำลังการผลิตได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรในอนาคตให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2565-2566 คาดจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง หลังระดมทุนขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิต สนับสนุนให้ความสามารถในการสร้างรายได้ และกำไรสูงขึ้น ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ

ขณะที่นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัดในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า มั่นใจเมื่อหุ้น YONG เข้าซื้อขายในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคัก เนื่องจากช่วงที่เปิดเสนอขายหุ้นในช่วงที่ผ่านมา กระแสความต้องการหุ้น YONG มีมากกว่าจำนวนที่จัดสรร

โดยจากความต้องการที่ล้นหลามครั้งนี้ นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ YONG แล้ว การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 180 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็น P/E ราว 26.10 เท่า สร้างความสนใจให้นักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นเติบโตรับเศรษฐกิจฟื้นตัว

ด้านบทวิเคราะห์จาก 4 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ในช่วง 3-5.10 บาท/หุ้น โดยบล.เอเชีย เวลท์ มองประเด็นการลงทุน YONG แนวโน้มกำไรเติบโตโดดเด่นสุดในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากธุรกิจหลักได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนในปี 2565-2566 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบจากปีก่อน มีอัตราส่วน ROE สูงที่สุดในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ระดับ 10.15% เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 4.45% ได้ประโยชน์ที่ต่อเนื่องจากมาตรการผ่อนคลายการควบคุมโควิด ประเมินราคาเป้าหมายที่ 3.16 บาท

ด้านบล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาพื้นฐานของ YONG ที่ 3 บาท อิง PE ปี 2566 ที่ 18 เท่า คาดกำไรสุทธิปี 2565 จะเติบโต 17% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม และคาดว่ากำไรสุทธิปี 2566 โตต่อเนื่อง 41.1% เมื่อเทียบจากปีก่อน ในปี 2566 ท่ามกลางคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทั้งจากผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ โดยบริษัทมีกลุ่มลูกค้าอสังหาฯแนวราบที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจมานาน และลูกค้าหน่วยงานภาครัฐ

ส่วนบล.ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า YONG เข้าสู่ธุรกิจผลิตวัสดุก่อสร้างมานานกว่า 30 ปี มีผลิตภัณฑ์หลากหลายครบวงจร โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เน้นคุณภาพผลิตภัณฑ์ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามายาวนาน รวมทั้งได้เปรียบจากพื้นที่โรงงานครอบคลุมลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ทำให้ต้นทุนขนส่งต่ำกว่าคู่แข่ง พร้อมการบริหารต้นทุน ทำให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพช่วยให้ YONG สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า 30% มาโดยตลอด ให้ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท

ขณะที่บล.เอเอสแอล มองว่า YONG มีความโดดเด่นทั้งในด้านประสิทธิภาพการทำกำไรที่ทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม รวมถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ยแบบ CAGR ของกำไรสุทธิอยู่ที่ 34.4% ที่อยู่ในอัตราเร่งแบบ S-Curve สำหรับช่วงปี 2565-2567 จึงประเมินราคาอยู่ในกรอบ 4.86-5.10 บาท อ้างอิง PE ในช่วง 30-31.50 เท่า

Back to top button