PSH ร่วมทุน “AMILI” รุกธุรกิจใหม่ “เฮลท์เทค”
PSH จับมือ “AMILI” สตาร์ทอัพเมดเทคสิงคโปร์ รุกธุรกิจใหม่ “เฮลท์เทค” หวังต่อยอดโรงพยาบาลวิมุต, โรงพยาบาลเทพธารินทร์ เครือ ชูนวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ “ไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร” เทคโนโลยีแก้ปัญหาสุขภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทพฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ยังคงเดินหน้าเปิดแผนธุรกิจใหม่ต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ลงทุนใน AMILI บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพด้านจุลชีพในลำไส้ที่มีความแม่นยำมากที่สุดแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังต่อยอดนำเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับบริการของโรงพยาบาลวิมุต และเทพธารินทร์ พร้อมศึกษาร่วมการก่อตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหารแห่งแรกของไทย เพราะการตรวจเชื้อจุลชีพในลำไส้เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์แนวใหม่ ที่จะช่วยไขความลับและป้องกันการเกิดปัญหาด้านสุขภาพเชิงรุกก่อนการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง รวดเร็วและแม่นยำ
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSH เปิดเผยว่า การร่วมลงทุนในธุรกิจเฮลท์เทคในต่างประเทศเป็นหนึ่งในแนวทางพัฒนาธุรกิจของพฤกษาในด้านนวัตกรรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพโดยใช้แนวทาง Outside-in Innovation ที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วเพราะเกิดการผสานความร่วมมือระหว่างกันในทันทีทั้งความรู้ด้านวิชาการและโนฮาว สำหรับการร่วมลงทุนใน AMILI พฤกษาคาดหวังในระยะยาวเพื่อนำนวัตกรรมด้านการแพทย์ระดับโลกมาสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านสุขภาพของกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ภายใต้การดำเนินงานของโรงพยาบาลวิมุตและเทพธารินทร์
สำหรับปัจจุบันโรงพยาบาลวิมุตและโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ซึ่งเป็นธุรกิจภายใต้กลุ่มพฤกษา กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยภายใต้ความร่วมมือกับ AMILI โดยจะเป็นห้องปฏิบัติการวิจัยด้านไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร (Gut Microbiome) แห่งแรกของไทย ซึ่งจะช่วยยกระดับบริการทางการแพทย์ทั้งในด้านวิชาการและกระบวนการใหม่ในการป้องกันและรักษาโรค พร้อมกับมีแผนวิจัยเพื่อต่อยอดความรู้เชิงวิชาการในระดับเอเชีย เพื่อศึกษาไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหารของกลุ่มตัวอย่างในคนไทยเป็นครั้งแรก โดยความร่วมมือจากแพทย์จากทั้ง 3 สถาบัน ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเทพธารินทร์ และ AMILI
โดยการลงทุนร่วมใน AMILI สตาร์ทอัพสัญชาติสิงคโปร์ในครั้งนี้ พฤกษาได้ผนึกความร่วมมือด้านการลงทุนกับกลุ่มนักลงทุนชั้นนำในต่างประเทศที่เล็งเห็นศักยภาพและการเติบโตของธุรกิจเฮลท์เทค โดยวงเงินลงทุนรวมที่ AMILI ได้รับในรอบการระดมทุนซีรีส์เออยู่ที่ 10.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะนำไปใช้ในการเร่งผลักดันการศึกษาวิจัยใหม่ด้านไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร และพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ไมโครไบโอม “AMILI PRIME” ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท AMILI ซึ่งมีความแม่นยำสูง มีประสิทธิภาพในการทดสอบ การวินิจฉัย รวมถึงเพื่อขยายบริการไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และต่อยอดไปยังทวีปเอเชียในอนาคตด้วย
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท AMILI นับได้ว่าเป็นธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ เพราะ AMILI ได้ร่วมกับหน่วยงานวิจัยต่างๆในการจัดทำการศึกษาวิจัยมากกว่า 20 งานวิจัย มีคลังข้อมูลและตัวอย่างจุลชีพในลำไส้ของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายเชื้อชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกรวมถึงเป็นธนาคารไมโครไบโอมให้บริการ FMT (Food Microbiome Transfer) เพียงแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้บริการประชากรรวม 680 ล้านคนในภูมิภาค
ทั้งนี้ล่าสุด AMILI ยังได้เปิดตลาดผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ (Functional Food) เพื่อสุขภาพลำไส้ แบรนด์ BIO&ME ในสิงคโปร์ และวางแผนที่จะขยายไปยังส่วนที่เหลือของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และฮ่องกงในปีนี้ โดย AMILI มีแผนให้บริการทั้งด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพและการรักษาทางคลินิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขยายครอบคลุมต่อไปในทวีปเอเชีย