ก.ล.ต. เชือดอดีตมาร์เก็ตติ้ง TTB แบน 10 ปี ฐานโกงเงินลูกค้า 5 ลบ.

ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุน “ปาล นามรัตน์” ซึ่งขณะที่กระทำผิดสังกัด TTB ฐานโกงเงินลูกค้า 5 ลบ. เป็นเวลา 10 ปี มีผลตั้งแต่ 4 ส.ค.65


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุนรายนายปาล นามรัตน์ (ชื่อเดิม นายปรัชญ์พงศ์ นามรัตน์) (นายปาล) เป็นเวลา 10 ปี กรณีกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และแสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสในการปฏิบัติงาน ขณะกระทำผิดสังกัดธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB

โดย ก.ล.ต. ได้รับรายงานการตรวจสอบจาก TTB และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ในปี 2562-2564 นายปาล ได้แนะนำให้ลูกค้าเปิดบัญชีเงินฝากและนำเงินไปซื้อหน่วยลงทุน รวมทั้งให้ลูกค้าสมัครแอปพลิเคชันธนาคารผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (Mobile Banking) โดยใช้ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์และอีเมลส่วนตัวของนายปาล และต่อมามีการแสดงตนเป็นลูกค้าเพื่อขอรหัสแอปพลิเคชันและทำรายการซื้อขายสับเปลี่ยนกองทุนของลูกค้า

รวมทั้งเพื่อยืนยันรายการขายกองทุนทางโทรศัพท์ และโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของลูกค้าไปเป็นของตนเอง ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 5,000,000 บาท นอกจากนี้ ได้เปิดบัญชีกองทุนใหม่ในชื่อลูกค้าเพื่อสร้างผลงาน เปิดบัญชีเงินฝากใหม่และเปลี่ยนที่อยู่ลูกค้าเป็นของตนเองเพื่อรับของสมนาคุณ โดยลูกค้าไม่ทราบและไม่ยินยอม

ทั้งนี้ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า นายปาลไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน โดยเป็นการกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และเป็นการแสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุน โดยอาศัยโอกาสในการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของนายปาลเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2565

ในการพิจารณากำหนดโทษ ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

ดังนั้น ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการสมัครใช้บริการทางการเงินและการลงทุน โดยการระบุที่อยู่ อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ต้องเป็นของตนเองเท่านั้น เพื่อป้องกันการถูกแอบอ้างหรือลักลอบทำธุรกรรมโดยปราศจากการรับรู้ของผู้ลงทุน และควรหมั่นตรวจสอบยอดเงินลงทุนในกองทุนรวมและบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหาย กรณีมีข้อสงสัยควรติดต่อบริษัทผู้ให้บริการ หรือสอบถามได้ที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือเฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.

Back to top button