GUNKUL ยัน! เปิดทาง GULF ร่วมทุน 5 พันลบ. ขยาย “พลังงานทดแทน” หนุนโตระยะยาว
GUNKUL มั่นใจเปิดทาง GULF ร่วมทุนส่งผลบวกต่อบริษัทในระยาว นำเงิน 5 พันล้านบาท รองรับแผนการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า โดยไม่ต้องเพิ่มทุน
นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า การออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของบริษัทร่วมทุนให้บริษัทย่อยของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มูลค่า 5,000 ล้านบาท เพื่อเปิดให้เข้ามาถือหุ้น 50% อาจกระทบกับกำไรในระยะสั้น แต่จะเป็นบวกต่อบริษัทในระยะยาว เนื่องจากเงินจำนวน 5,000 ล้านบาทของ GUNKUL จะนำมาใช้เพื่อรองรับการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ทั้งการลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนของ JV ร่วมกับ GULF จำนวน 1,000 MW รวมถึงการเติบโตในธุรกิจต่างๆ ของ GUNKUL โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเลย
อีกทั้งธุรกรรมนี้ส่งผลให้ GUNKUL เปลี่ยนการรับรู้รายได้จากโครงการลมดังกล่าวจากเดิม consolidate งบมาเป็น equity income แทน ทำให้ D/E จะลดลงจาก 2.16 เท่า เหลือ 1.21 เท่า และทำให้บริษัทสามารถใช้ debt financing ขยายการลงทุนได้เพิ่มอีก 17,000 ล้านบาทจากงบลงทุนเดิมของบริษัทฯ
นอกจากนี้โครงการลมทั้ง 3 โครงการของบริษัทร่วมทุนมี Adder เหลืออีก 4-6 ปี ซึ่งรายได้จะลดลงหลังจากหมด Adder การที่บริษัทนำเงินทุนนี้ไปลงทุนในโครงการใหม่ที่ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าและคงที่กว่าจะทำให้งบการเงินของบริษัทเสถียรมากขึ้นในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อกำไรในปี 65 จะยังไม่มี เนื่องจากการเพิ่มทุนให้ JV ด้วยโรงไฟฟ้า ในขณะที่ GULF เพิ่มทุนด้วยเงินสด มีผลทำให้บริษัทรับรู้กำไรพิเศษในช่วงไตรมาส 3/65 ซึ่งมีผลชดเชยการหายไปของรายได้จากโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งได้
สำหรับผลกระทบต่อกำไรในช่วงปี 66-67 คาดว่ามีบ้าง แต่ก็จะถูกชดเชยด้วยรายได้จากงานก่อสร้างที่จะเพิ่มขึ้นหลังเข้าเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่สำคัญกับทาง GULF ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายเองจะลดลง ทำให้ผลกระทบในมุมของผู้บริหารเป็นสิ่งที่ไม่น่ากังวล และเป็นการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นสปริงบอร์ดที่สำคัญสำหรับการเติบโตรอบใหม่ที่จะชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ปลายปี 67