สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ส.ค. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ส.ค. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (5 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง โดยถูกกดดันจากหุ้นเทสลาและหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ปรับตัวลง หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,803.47 จุด เพิ่มขึ้น 76.65 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,145.19 จุด ลดลง 6.75 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,657.56 จุด ลดลง 63.02 จุด หรือ -0.50%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (5 ส.ค.) หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐทำให้เกิดความวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในเดือนหน้า นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของยุโรปถ่วงตลาดลงด้วย

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 435.72 จุด ลดลง 3.34 จุด หรือ -0.76% และปรับตัวลง 0.6% ในรอบสัปดาห์นี้

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,472.35 จุด ลดลง 41.04 จุด หรือ -0.63%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,573.93 จุด ลดลง88.75 จุด หรือ -0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,439.74 จุด ลดลง 8.32 จุด หรือ -0.11%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันศุกร์ (5 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ค.

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,439.74 จุด ลดลง 8.32 จุด หรือ -0.11%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (5 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด แต่ราคาสัญญาน้ำมันดิบยังคงร่วงลงอย่างรุนแรงในรอบสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 89.01 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 94.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (5 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐในเดือนก.ค.

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 15.7 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 1,791.2 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 1.39% ปิดที่ 19.842 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 924.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 51.20 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 2,128.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (5 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.88% แตะที่ระดับ 106.6190

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 135.06 เยน จากระดับ 132.91 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9618 ฟรังก์ จากระดับ 0.9546 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2935 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2851 ดอลลาร์แคนาดา

ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0178 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0252 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2067 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2174 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6912 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6981 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button