“สถานทูตนอร์เวย์” เตรียมชงเรื่องให้ “รัฐบาล-เทเลนอร์” ทบทวนดีล TRUE-DTAC

กลุ่มพลเมืองเพื่อเสรีภาพในการสื่อสาร ยื่นหนังสือสถานทูตนอร์เวย์ ค้านควบรวม “TRUE-DTAC” เสนอ 3 ข้อพิจารณา หวั่นผู้ให้บริการน้อย กระทบเสรีภาพเข้าถึงข่าวสาร-คุณภาพการใช้งาน โดยเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย พร้อมเป็นสื่อกลางส่งเรื่องให้รัฐบาลนอร์เวย์และบริษัทเทเลนอร์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพลเมืองเพื่อเสรีภาพในการสื่อสาร ได้เดินทางไปสถานเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือถึง นางแชสตี เริดส์มูน เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย ต่อประเด็นข้อเสนอควบรวมกิจการระหว่าง ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศนอร์เวย์กดดันให้บริษัท เทเลนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ DTAC พิจารณายุติข้อเสนอควบรวมที่กำลังเกิดขึ้น เนื่องจากจะทำให้เกิดการผูกขาดตลาดการให้บริการมือถือของไทย และสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้บริโภค กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่อาจถูกแทรกแซงข้อมูลข่าวสาร หากการควบรวมสำเร็จ

ด้าน นางแชสตี เริดส์มูน เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ได้รับทราบถึงความเดือดร้อนและสิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงจะนำเอาแถลงการณ์ของภาคประชาชนในครั้งนี้ ส่งเรื่องให้ทางเทเลนอร์และรัฐบาล และขอยืนยันว่า จะตรวจสอบเรื่องนี้ หากไม่ถูกต้องหรือผิดหลักธรรมภิบาลของนอร์เวย์ เรื่องนี้ก็จะไม่ปล่อยไว้ เพื่อให้พิจารณาทบทวนถึงการรวมกิจการครั้งนี้ เนื่องจากเทเลนอร์เป็นบริษัทใหญ่อันดับ 3 ในประเทศ โดยสถานทูตก็จะช่วยเป็นสื่อกลางส่งต่อแถลงการณ์นี้

สำหรับแถลงการณ์ของกลุ่มพลเมืองเพื่อเสรีภาพในการสื่อสาร ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่ง ในข้อเสนอควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC โดยเห็นว่า ข้อเสนอในการควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทฯ ขัดต่อ พ.ร.บ.โทรคมนาคม มาตรา 21 ที่บัญญัติว่า “การประกอบกิจการโทรคมนาคม นอกจากต้องอยู่ในบังคับของ กฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทางการค้าแล้ว ให้คณะกรรมการกำหนดมาตรการเฉพาะตามลักษณะการ ประกอบกิจการโทรคมนาคม มิให้ผู้รับใบอนุญาตกระทำการอย่างใดอันเป็นการผูกขาด หรือลด หรือ จํากัดการแข่งขันในการให้บริการกิจการโทรคมนาคมในเรื่องดังต่อไปนี้

1.การอุดหนุนการบริการ

2.การถือครองธุรกิจในบริการประเภทเดียวกัน

3.การใช้อำนาจทางการตลาดที่ไม่เป็นธรรม

4.พฤติกรรมกีดกันการแข่งขัน

5.การคุ้มครองผู้ประกอบการรายย่อย

ทั้งนี้ การควบรวมกิจการของ TRUE และ DTAC จะทำให้เหลือผู้ให้บริการกิจการโทรคมนาคมน้อยลง และจะทำให้เหลือผู้ให้บริการฯ หลักเพียงสองรายเท่านั้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้บริโภคทั้งในแง่การพัฒนาคุณภาพบริการ การกำหนดราคา และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาและแข่งขันในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นประเด็นที่ประเทศไทยและนานาประเทศให้ความสำคัญในโลกยุคใหม่

โดยปัจจุบัน DTAC มีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับสัญญาณมือถืออยู่ที่ 19.6 ล้านเลขหมายคิดเป็น 20% ของหมายเลขทั้งหมด TRUE อยู่ที่ 32.2 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 34% ของหมายเลขทั้งหมด และ AIS อยู่ที่ 44.1 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 46% ของหมายเลขทั้งหมด จะเห็นได้ว่าหากการควบรวมเกิดขึ้นจะทำให้มีผู้ให้บริการรายใหญ่เหลือเพียงสองราย เพราะการควบรวมระหว่าง TRUE และ DTAC จะทำให้ทั้งสองบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเกินกึ่งหนึ่งและสามารถชี้นำตลาดได้ทั้งในเรื่องราคาและคุณภาพของการให้บริการ

นอกจากนี้ทางกลุ่มฯ มีความกังวลเพิ่มเติมในเรื่องเสรีภาพในการสื่อสารของประชาชน ที่ต้องไม่ถูกแทรกแซงโดยบริษัทเอกชนหรือรัฐ หากผู้ให้บริการกิจการโทรคมนาคมมีจำนวนน้อยลง ก็จะทำให้การแทรกแซง คุกคาม จำกัด และปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการใช้เทคโนโลยีสปายแวร์ในการเข้าถึงข้อมูลในการสื่อสารของนักกิจกรรมและผู้ที่เห็นต่างจากรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต บริษัทเอกชนเองก็มีความรับผิดชอบในการปกป้องสิทธิมนุษยชนตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs) ซึ่งในเสาหลักที่สองได้เน้นย้ำว่าบุคคลและองค์กรที่ประกอบธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทใดหรือขนาดใดก็ตาม ย่อมมีความรับผิดชอบที่จะเคารพสิทธิมนุษยชน (Respect)

ทั้งนี้ทางกลุ่มฯ ทราบดีว่าบริษัทเทเลนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ DTAC เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมาภิบาลและสิทธิมนุษยชน อย่างเช่นที่เทเลนอร์ให้ความเห็นไว้ว่าการสื่อสารโทรคมนาคมนั้น มีความสำคัญในการแลกเปลี่ยนสื่อสารความคิดและเป็นส่วนหนึ่งของเสรีภาพในการแสดงออก รวมถึงสิทธิความเป็นส่วนตัว การรักษาจุดยืนในเรื่องนี้อาจเป็นไปได้ยากขึ้น หากเกิดการควบรวมกับบริษัทภายในประเทศที่มีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและการรักษาความเป็นส่วนตัวไม่เท่ากับมาตรฐานของบริษัทเทเลนอร์

ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้เทเลนอร์ยุติข้อเสนอควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC และขอเรียกร้องรัฐบาลนอร์เวย์พิจารณาว่า ข้อเสนอควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ หรือ DTAC ในครั้งนี้นั้นเป็นไปตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนหรือไม่

Back to top button