สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ส.ค. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ส.ค. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันพุธ (10 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนก.ค. ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,309.51 จุด พุ่งขึ้น 535.10 จุด หรือ +1.63%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,210.24 จุด เพิ่มขึ้น 87.77 จุด หรือ +2.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,854.80 จุด พุ่งขึ้น 360.88 จุด หรือ +2.89%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (10 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวกว่าคาดในเดือนก.ค. ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 439.88 จุด เพิ่มขึ้น 3.90 จุด หรือ +0.89% โดยปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,523.44 จุด เพิ่มขึ้น 33.44 จุด หรือ +0.52%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,700.93 จุด เพิ่มขึ้น 165.96 จุด หรือ +1.23% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,507.11 จุด เพิ่มขึ้น 18.96 จุด หรือ +0.25%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (10 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ชะลอตัวลงในสหรัฐ ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,507.11 จุด เพิ่มขึ้น 18.96 จุด หรือ +0.25% โดยปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (10 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินลดลงมากที่สุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการเชื้อเพลิงในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสัญญาน้ำมันดิบ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 91.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 97.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (10 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,813.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 20.742 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 13.1 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 946.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 27.10 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 2,245.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (10 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 1.11% แตะที่ระดับ 105.1960
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 132.90 เยน จากระดับ 135.17 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ0.9424 ฟรังก์ จากระดับ 0.9540 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2784 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2891 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0306 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0208 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2226 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2070 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7085 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6956 ดอลลาร์สหรัฐ