SPALI แย้มครึ่งปีหลังแจ่ม-ลุยผุด 21 โครงการใหม่ มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 2.9 หมื่นล้าน
SPALI แย้มครึ่งปีหลังแจ่ม-ลุยผุด 21 โครงการใหม่มูลค่า 2 หมื่นล้าน ถมตุนแบ็กล็อกแน่น 2.8 หมื่นล้าน มั่นใจรายได้ปีนี้โตเข้าเป้า 2.9 หมื่นล้าน ตั้งงบลงทุน 2 หมื่นล้าน ลุยซื้อที่ดิน-พัฒนาโครงการเต็มสูบ
นาย ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ และกรรมการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผย ภาพรวมข้อมูลของบริษัทในงาน Opportunity Day ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 11 ส.ค.65 ว่าผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,252.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,471.54 ล้านบาท โดยรายได้รวมอยู่ที่ 14,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11,000 ล้านบาท
โดยส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 13,507.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,830.41 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 27% แบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิÍบ้านและทาวน์เฮ้าส์ 55% และที่เหลือ 45% เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด สาเหตุหลักที่รายได้ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทฯมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการอาคารชุดสร้างเสร็จใหม่ โดยเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงปลายไตรมาส 1 ปี
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทฯและบริษัทย่อยมี backlog (ยอดสัญญาที่ลูกค้าซื้อบ้านและอาคารชุดพักอาศัยแล้ว) แต่ยังไม่ถึงกำหนดโอนให้ลูกค้า 27,962 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและสามารถรับรู้เป็นรายได้ในอีก 6 เดือนข้างหน้าในปี 2565 จำนวน 13,695 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 14,267 ล้านบาท ในอีก 2 ปี ถัดไป ทั้งนี้ยอดสัญญาที่รอส่งมอบหมายถึงยอดจำนวนเงินรวมของบ้านและอาคารชุดพักอาศัยที่รอโอนซึ่งบริษัทฯและบริษัทย่อยจะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคตตามมาตรฐานการบัญชีคือรับรู้รายได้เมื่อโอนกรรมสิทธิ
ส่วนยอดขาย (Presale) ครึ่งแรกปี 2565 ทำได้ที่ระดับ 18,216 ล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายทั้งปี 2565 อยู่ที่ 28,000 ล้านบาท เนื่องจากปี 2565 บริษัทมีโครงการรอโอนทั้งหมด 7 โครงการมูลค่าประมาณ 18,000 ล้านบาท โดย 3 โครงการ ได้ทยอยโอนในไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมา และทยอยโอนในไตรมาส 2/2565 จำนวน 3 โครงการ และอีก 1 โครงการที่เหลือก็จะทยอยโอนในไตรมาส 3 และไตรมาส 4/2565
ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่าจากยอดขายในครึ่งปีหลังจะยังโตแกร่งต่อเนื่องโดยจะเปิดตัวโครงการมากขึ้น และหนุนยอดขายปีนี้โตตามเป้า 28,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้ปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ประมาณ 29,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกทำได้แล้วกว่า 14,092 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังมียอดโอนกรรมสิทธิ์สูงกว่าครึ่งปีแรก
นอกจากนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ยอมรับได้กับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่วนการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดกระทบเล็กน้อย และแบงก์ยังปล่อยสินเชื่อดีอยู่ มีสภาวะตลาดที่ดีจากการท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ และการปรับตัวอัตราดอกเบี้ยไม่ได้ปรับขึ้นมากและรุนแรงตามที่คาดการณ์ ผลกระทบน้อยมาก ส่วนประเด็นค่าแรงปรับขึ้นกระทบต้นทุนบ้างแต่ต้องรอดูว่าจะมีการปรับขึ้นจะขนาดไหน
สำหรับปี 2565 ตั้งงบลงทุน 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นซื้อที่ดินที่ 8,000 ล้านบาท และงบที่ใช้ลงทุนและก่อสร้างประมาณ 1,2000 ล้านนบาท โดยปี 2565 มีแผนเปิด 34 โครงการรวมมูลค่า 40,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคอนโดต่างจังหวัด 1 โครงการ และแนวราบต่างจังหวัด 18 โครงการ และคอนโดในกรุงเทพฯจำนวน 2 โครงการ และแนวราบในกรุงเทพฯจำนวน 13 โครงการ ส่วนครึ่งปีหลัง 2565 จะเปิดโครงการใหม่ 21 โครงการมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท