WTI ปิดพุ่ง 2.6% หลัง IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์ขยายตัว
น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง 2.6% หลัง IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปีนี้อีก 3.8 แสนบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 2.1 ล้านบาร์เรล/วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (11 ส.ค.) หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 2.41 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 94.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 99.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนส.ค. โดยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้อีก 380,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 2.1 ล้านบาร์เรล/วัน
รายงานระบุว่า การที่ราคาก๊าซธรรมชาติได้พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้ส่งผลให้หลายประเทศหันไปใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมัน โดยเฉพาะประเทศในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันเบนซินลดลงมากที่สุดในรอบ 10 เดือน โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ พุ่งขึ้น 5.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สต็อกน้ำมันเบนซิน ลดลง 5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อาจลดลงเพียง 500,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานปรับลดแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์น้ำมันในปีนี้ โดยได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกสู่ระดับ 100 ล้านบาร์เรล/วัน จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 100.3 ล้านบาร์เรล/วัน